ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: กระแสคาดเฟดลดดอกเบี้ย ถ่วงดอลล์เทียบยูโร-ปอนด์

ข่าวต่างประเทศ Monday August 27, 2007 06:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยดอลลาร์อ่อนตัวลงแม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งก็ตาม 
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3673 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3557 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0134 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0029 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์แคนาดาและฟรังซ์สวิส โดยดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงแตะระดับ 1.0527 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0552 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.2018 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.2069 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 116.21 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 115.92 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้เท่าเดิมที่ 0.5%
นายเดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าวิกฤตการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มซับไพรม์และตลาดสินเชื่ออาจทำให้เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นในการประชุมเดือนก.ย. และคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยลบต่อสกุลเงิน เพราะจะทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินนั้นๆมีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ
ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนตัวลงแม้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่ราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่ในเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 239,500 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 230,600 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 5.9% ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 เดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ