วาณิชธนกิจอาเซ็มแบงเกอร์ของมาเลเซียคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของมาเลเซียในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 จะยังคงซบเซาลงอีก เนื่องจากความต้องการสินค้าจากตลาดหลักๆของมาเลเซียชะลอตัวลง แต่คาดว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับแรงกระตุ้นจากตัวเลขการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น และการส่งออกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ยอดส่งออกของมาเลเซียเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และลดลงจากสถิติในเดือนก่อนหน้านี้ที่ 1.3% ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 1.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และลดลงจากระดับเดือนพ.ค.ที่ 3.3%
"ยอดส่งออกที่ซบเซาลงในช่วงไตรมาสที่ 2 และในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550 สะท้อนให้เห็นว่า สภาพเศรษฐกิจในประเทศยังคงขาดเสถียรภาพ เนื่องจากอุปสงค์จากนอกประเทศเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจภายในประเทศซบเซาลง" วาณิชธนกิจอาเซ็มแบงเกอร์กล่าว
ทั้งนี้ ยอดส่งออกของมาเลเซียในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้เติบโตขึ้นเพียง 1.1%จากปี 2549 โดยยอดผลิตสินค้าในประเทศที่ซบเซาลงในเดือนมิ.ย.เป็นผลมาจากยอดส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐและสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 22.5% และ 2.6% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี
สหรัฐและสิงคโปร์เป็นผู้ซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายหลักของมาเลเซีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 45% ของยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมของมาเลเซีย
วาณิชธนกิจอาเซ็มแบงเกอร์ กล่าวว่า การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินริงกิตไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของมาเลเซียที่ซบเซาลงในช่วง 6 เดือนแรกของปีมากนัก เนื่องจากผู้แข่งขันรายหลักของมาเลเซียก็ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินในประเทศของตัวเองนับตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาเช่นกัน ซึ่งบางครั้งแข็งค่าขึ้นมากกว่าค่าเงินริงกิต สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนซ์เชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--