นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้าพื้นที่แหล่งผลิตปิโตรเลียมเอราวัณ ของบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในกลุ่มบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เพื่อให้เกิดการผลิตก๊าซธรรมชาติต่อเนื่องจากผู้รับสัมปทานเดิมรายเดิม คือ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ที่จะหมดอายุในปี 2565 ว่า ทางบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ฯ อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ เพื่อตรวจสอบว่าจะวางแท่นผลิตปิโตรเลียมได้หรือไม่ และกำลังจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA )
ทั้งนี้ กรมฯยืนยันว่าการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณจะไม่เกิดปัญหา และการผลิตก๊าซฯจะต้องมีต่อเนื่องเพื่อความมั่นคงพลังงานของประเทศ
ส่วนการเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 23 นั้น นายสราวุธ ขณะนี้กรมฯ ได้กำหนดขนาดและพื้นที่แปลงที่จะเปิดสำรวจไว้แล้ว เตรียมเสนอนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน พิจารณาเร็วๆนี้ ซึ่งเบื้องต้นทางนายสุพัฒนพงษ์ เห็นว่าการเปิดสำรวจรอบ 23 จะต้องรอจังหวะปัญหาไวรัสโควิด-19 ของโลกคลี่คลาย เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลพื้นที่ปิโตรเลียมของไทยได้ รวมทั้งต้องรอจังหวะให้ราคาน้ำมันโลกเกิดความเสถียรในระดับจูงใจให้ขุดสำรวจปิโตรเลียม ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หากเปิดประมูลในจังหวะที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลให้การแข่งขันต่ำและทำให้ประเทศชาติได้สิทธิประโยชน์น้อยลง