นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) จะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปมาตรการผ่อนปรนให้กลุ่มนักธุรกิจต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศระยะสั้นภายในสัปดาห์นี้ และในขั้นตอนต่อจากนั้นจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นลำดับต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นความจำเป็นที่ควรอนุญาตให้กลุ่มนักธุรกิจที่จะเข้ามาเจรจาธุรกิจ และพิจารณาตัดสินใจด้านการลงทุน เดินทางเข้ามาในประเทศ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่เนื่องจากนักธุรกิจกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาเป็นระยะสั้น จึงควรต้องมีมาตรการพิเศษในการกำกับดูแล เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เตรียมนำเสนอมาตรการในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับมาตรการที่เตรียมเสนอมีดังนี้
1) มีผลตรวจโควิด-19 (RT-PCR) ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
2) มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 ในวงเงินไม่น้อยกว่า 1 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
3) ตรวจหาเชื้อ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึงและเมื่อเดินทางออกจากประเทศไทย ที่ช่องทางเข้า-ออกประเทศไทย
4) ให้มีผู้ติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุขตลอดระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย หรือเงื่อนไขอื่นๆที่เหมาะสม
5) ให้เดินทางโดยยานพาหนะที่เตรียมไว้ ตามแผนการเดินทางที่กำหนดเท่านั้น
6) ให้มี ติดตั้ง Application ติดตามตัวเพื่อสามารถตรวจสอบได้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของมาตรการอาจมีเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการเฉพาะกิจชุดดังกล่าว
อนึ่ง ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้อนุมัติให้นักธุรกิจและผู้มีใบอนุญาตทำงานเดินทางเข้าประเทศมาแล้ว จำนวนประมาณ 11,000 คน และคนกลุ่มนี้ได้ยอมรับการเข้ากักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14 วัน และขณะนี้ ศบค. ได้อนุมัติให้มีนักท่องเที่ยวแบบ Long Stay โดยใช้ Special Tourist Visa (STV) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะต้องเข้ารับ การกักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14 วัน ด้วยเช่นกัน