อียูผ่อนปรนกฎการบิน อนุญาตนำของเหลวจากร้านดิวตี้ฟรีขึ้นเครื่องได้

          คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (EC) ได้ลงมติยอมรับกฏข้อบังคับด้านการบิน ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถนำของเหลวที่ซื้อจากร้านค้าปลอดภาษีในบางประเทศขึ้นเครื่อง เพื่อไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินต่างๆในประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปได้
          นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 ได้มีการจำกัดปริมาณของเหลวที่ผู้โดยสารถือขึ้นเครื่องบินได้ประมาณ 100 มิลลิลิตรต่อกระเป๋าสัมภาระ 1 ใบ และของเหลวเหล่านั้นจะต้องบรรจุหีบห่อด้วยวัสดุใส หรือบรรจุในถุงพลาสติกใสซึ่งสามารถบรรจุได้ 1 ลิตร
          กฏข้อบังคับดังกล่าวซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นมาตรการป้องกันภัยจากการลอบวางระเบิดโดยใช้ของเหลว และครอบคลุมถึงการสั่งห้ามไม่ให้ผู้โดยสารนำของเหลวที่ซื้อจากท่าอากาศยานประเทศที่สามขึ้นเครื่องบิน เมื่อผู้โดยสารเหล่านั้นต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่ท่าสนามบินใดๆของสหภาพยุโรป
          กฏข้อบังคับใหม่นี้จะทำให้คณะกรรมาธิการจากสหภาพยุโรปได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ว่า มาตรฐานเช่นเดียวกันนี้จะสามารถนำมาปรับใช้ในประเทศที่สามได้หรือไม่ และมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินอื่นๆเป็นที่น่าพอใจแล้วหรือไม่ ดังนั้นจึงมีการอนุญาตให้สามารถนำของเหลวที่ซื้อจากร้านค้าปลอดภาษีขึ้นเครื่องบินที่มีจุดหมายปลายทางไปยังประเทศต่างๆในสหภาพยุโรปได้
          ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะเดินหน้าตรวจสอบท่าอากาศยานในประเทศที่สามตามมาตรฐานเป็นรายกรณี และการตัดสินยกเว้นการนำของเหลวขึ้นเครื่องครั้งนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
          "เราต้องสร้างความสมดุลระหว่างความปลอดภัยด้านการบินที่เข้มงวดกับความสะดวกของผู้โดยสาร กฎข้อบังคับฉบับใหม่นี้นับเป็นความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาในทิศทางที่ถูกต้อง" นายฌาค บาร์ร็อต รองประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายนโยบายการจราจรกล่าว