กลุ่มผู้ค้าปลีกชั้นนำของอังกฤษเปิดเผยว่า อุปสรรคด้านต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มสูงขึ้นและเหตุอุทกภัยครั้งรุนแรงในอังกฤษได้ส่งผลให้ยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค. ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
ผลสำรวจของสมาคมผู้ค้าปลีกอังกฤษ (BRC) ระบุว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษซึ่งไม่นับรวมร้านค้าปลีกแห่งใหม่ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนก.ค.จากปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของอัตราการขยายตัวเฉลี่ยรายเดือนในไตรมาสที่สองของปีนี้
ขณะที่ยอดค้าปลีกโดยรวม ซึ่งนับรวมถึงร้านค้าปลีกแห่งใหม่ปรับตัวสูงขึ้น 3.1% จากปีก่อนหน้านี้ แต่ลดลงจากระดับ 5.1% ในเดือมิ.ย. และเป็นระดับต่ำสุดอีกครั้งหลังจากที่เคยร่วงลงแตะระดับ 2.5% ในเดือนพ.ย. 2549
BRC กล่าวว่า บรรยากาศทางธุรกิจในกลุ่มค้าปลีกของอังกฤษในเดือนก.ค.ปีนี้แตกต่างกันจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปี 2549 เป็นช่วงที่มีการจัดมหกรรมฟุตบอลโลก จึงทำให้ยอดขายอาหารในปีนี้ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อีกทั้งฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องแต่งกายและรองเท้า และธุรกิจผลิตของใช้ด้วยตัวเอง (DIY) รวมถึงสินค้าด้านการจัดสวน แต่เป็นผลดีต่อยอดการซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าหลายแห่ง
ด้านเควิน ฮาวกินส์ ผู้อำนวยการทั่วไปของ BRC เผยว่า ผู้บริโภคในอังกฤษมีความรอบคอบในการใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ได้ทำให้การขยายตัวของยอดค้าปลีกอังกฤษชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ย. แม้ว่าทางร้านค้าจะใช้กลยุทธ์การปรับลดราคาสินค้าลงมาแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นอีก 0.25% ในปีนี้ สู่ระดับ 6.00% โดยธนาคารจะส่งสัญญาณใหม่ๆในวันพุธนี้หลังจากที่ BOE เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาสครั้งล่าสุดในรายงานด้านภาวะเงินเฟ้อ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--