นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้ผลักดันกระบวนการทำงานโดยใช้ Digital มากขึ้น โดยเปิดกว้างการให้บริการผ่านระบบ Open API เพื่อให้เข้าถึงบริการที่รวดเร็ว และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง สำหรับระบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ อ.ส.9 หรือ e-Stamp Duty ถือเป็นระบบที่ช่วยให้การชำระอากรแสตมป์เป็นเรื่องง่าย ลดปัญหาความยุ่งยากในการเดินทางไปชำระอากรแสตมป์ และการคำนวณอากรแสตมป์ผิดพลาด เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น
โดยผู้มีหน้าที่เสียอากรที่ประสงค์จะนำตราสารที่สามารถชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถยื่นคำขอผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและชำระค่าอากร ก่อนกระทำตราสารหรือภายใน 15 วัน นับแต่วันถัดจากวันกระทำตราสารโดยไม่เว้นวันหยุดราชการ และชำระเงินค่าอากรโดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Payment)
ทั้งนี้ ต้องเป็นตราสารที่จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. - 31 ธ.ค.63 ประกอบด้วยตราสาร 5 ลักษณะ คือ 1.จ้างทำของ 2.กู้ยืมเงินหรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร 3.ใบมอบอำนาจ 4.ใบมอบฉันทะสำหรับให้ลงมติในที่ประชุมของบริษัท และ 5.ค้ำประกัน
สำหรับการยื่นขอเสียอากรเป็นตัวเงิน ตาม "แบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์" (อ.ส.9) โดยผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร ที่ www.rd.go.th > e ? Filing > ระบบขอเสียอากรแสตมป์ เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ ยังสามารถยื่นผ่านทาง Application Programming Interface (API) ของกรมสรรพากร ซึ่งระบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ จะเปิดให้บริการเฉพาะการขอเสียอากรฉบับปกติภายในกำหนดเวลา หากต้องการขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารที่เกินกำหนดเวลาหรือยื่นแบบเพิ่มเติม ต้องยื่นด้วยแบบ อ.ส.4, อ.ส.4ข ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา
"เมื่อผู้ยื่นขอเสียอากรด้วย e ? Stamp Duty โอนเงินค่าอากรเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากรแล้ว เมื่อกรมสรรพากรได้ออกรหัสรับรองการเสียอากรแสตมป์พร้อมใบเสร็จรับเงินตามจำนวนเงินค่าอากร และเจ้าหน้าที่รับชำระเงินได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้เสียอากรแล้ว ถือว่าตราสารตามรายการข้อมูลในแบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ (อ.ส.9) ได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์แล้ว" โฆษกกรมสรรพากรระบุ