นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว ในตลาดจร (Spot LNG) เฉลี่ยในสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.137 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 4.837 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู จากความต้องการ LNG จากประเทศผู้ใช้เพิ่มสูงขึ้น อาทิ บริษัท KOGAS ประเทศเกาหลีใต้และบริษัท CPC ประเทศไต้หวัน ได้เข้าจัดหาเที่ยวเรือ Spot LNG สำหรับส่งมอบในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนจำนวนหลายเที่ยวเรือ
ทั้งนี้ คาดว่าประเทศเกาหลีใต้ต้องจัดหาเที่ยวเรือเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า เนื่องจากการหยุดการทำงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวน 6 แห่ง ในขณะที่ไต้หวันเตรียมความพร้อมสำหรับเข้าสู่ฤดูหนาวที่มีความต้องการใช้ LNG สูง ประกอบกับการหยุดการผลิตและส่งออก LNG ของโครงการ Cameron LNG ประเทศสหรัฐฯ และโครงการ Gorgon LNG ประเทศออสเตรเลีย ทำให้อุปทานในตลาดลดลง
ด้านสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) พบว่าราคาก๊าซธรรมชาติ (Pool) เดือนสิงหาคม 2563 อยู่ที่ 202.7124 บาท/ล้านบีทียู ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 5.2882 บาท/ล้านบีทียู จากราคา LNG ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ส่วนราคา Spot LNG เฉลี่ยเดือนสิงหาคม 2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.3508 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 3.7298 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู
ปัจจุบันการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) สำหรับสถานีภายในรัศมี 50 กม. จากสถานีแม่ สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลมีราคาที่ 14.17 บาท/กิโลกรัม (กก.) รถยนต์สาธารณะ 13.62 บาท/กก. ส่วนสถานีลูกที่อยู่ไกลสถานีแม่มากที่สุด (ไม่รวมภาษี อบจ. 18.17 บาท/กก.) ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2563 ปริมาณการจำหน่ายก๊าซ NGV อยู่ที่ 3,991 ตันต่อวัน (หรือประมาณ 165.31 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน) และมีสถานีบริการ NGV สะสมจำนวน 511 สถานี
ทั้งนี้ มีสถานีบริการ NGV ที่ยังเปิดให้บริการทั้งหมด 431 สถานี แบ่งเป็น สถานีแม่ 19 สถานี สถานีลูกและสถานีแนวท่อ 412 สถานี