นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังเทศกาลกินเจ ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA:STV) จากจีนประมาณ 120 คน เดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต โดยมีการเตรียมกิจกรรมให้กับนักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเข้ามาอยู่ในไทยเป็นเวลา 30 วัน
หากนักท่องเที่ยว STV กลุ่มแรกเข้ามาแล้วไม่มีพบผู้ติดเชื้อก็จะเดินหน้ารับนักท่องเที่ยว STV กลุ่มที่ 2 โดยให้มีการกักตัว 7 วัน และสามารถอยู่ข้างนอกได้ 7 วัน แต่จะอยู่ในพื้นที่ที่โรงแรมกำหนดไว้ ซึ่งตรงจุดนี้พนักงานที่ให้บริการก็ต้องถูกกักตัวไปด้วย ส่วนนักท่องเที่ยว STV กลุ่มที่ 3 หากเข้ามาไทยมีการตรวจที่สนามบินแล้วไม่พบเชื้อสามารถเข้ามาได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการกักตัว ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการทดสอบแนวทางการตรวจเชื้อด้วยวิธีการใหม่ สามารถทราบผลได้ภายใน 15 นาที
"STV 1 เราหวังว่านักท่องเที่ยวเข้ามาต้องไม่เอาเชื้อโรคเข้ามาเลย ความกดดันที่จะเอาเชื้อเข้ามาน้อยลง ก็จะไปเข้าสู่ STV 2 ได้ แต่หากทะลึ่งติดมาสักคนสองคน STV 2 อย่าไปฝันว่าจะเกิด" นายพิพัฒน์ กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เตรียมเสนอโครงการเที่ยววันธรรมดาต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งโครงการนี้เป็นการส่งเสริมให้คนวัยเกษียณช่วงอายุ 55-75 ปี ได้ท่องเที่ยว ซึ่งรัฐจะสนับสนุนในลักษณะร่วมจ่าย (co-pay) ในอัตรา 40% นักท่องเที่ยว 60% โดยจ่ายไม่เกิน 5 พันบาทต่อคนต่อทริป ซึ่งโครงการนี้จะออกแบบให้มีไกด์นำเที่ยว ทำให้ไกด์มีรายได้ไปด้วย และคาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.)ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และพยายามผลักดันให้เริ่มโครงการนี้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ สำหรับโครงการนี้ใช้วงเงินจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ยังมีอยู่
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้มอบนโยบายและรับฟังผลการดำเงินงานด้านการตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศว่า ได้มอบนโยบายให้สำนักงานต่างๆของ ททท. 29 สาขาทั่วโลก ให้ช่วยกันเชิญนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยให้ได้ ซึ่งระบบสาธารณสุขเป็นลำดับต้นๆ ของโลก แต่ควรเร่งเดินหน้าประชาสัมพันธ์ให้คนเข้ามาเที่ยวมากขึ้น