สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองคำ (96.5%) ในประเทศเช้านี้ เมื่อเวลา 09.26 น. ปรับตัวลดลงบาทละ 350 บาทเมื่อเทียบกับวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาททองคำละ 27,900 บาท ขายออกบาททองคำละ 28,000 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาททองคำละ 27,394.12 บาท ขายออก บาททองคำละ 28,500 บาท
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลง 30.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้ 1. แรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย จากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐที่มีแนวโน้มล่าช้า
2. การอ่อนค่าของเงินปอนด์ จากความวิตกเกี่ยวกับ no-deal Brexit ขณะที่อัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นกว่าคาดสู่ระดับ 4.5% กดดันปอนด์เพิ่ม และ 3. การอ่อนค่าของเงินยูโร หลังดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีร่วงลงเกินคาดสู่ระดับ 56.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งการอ่อนค่าของเงินปอนด์และยูโรสร้างแรงหนุนเพิ่มเติมให้กับดอลลาร์ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น +0.5% จนกดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับสูงสุดในระหว่างวันสู่ระดับต่ำสุดบริเวณ 1,886 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ
แนะนำให้หาจังหวะเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ให้เปิดสถานะขาย หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,900-1,911 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งเข้าซื้อคืนเพื่อทำกำไรบางส่วน หากราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,872-1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ความแข็งแกร่งและแรงซื้อยังคงน้อย ระยะสั้นราคาพยายามฟื้นตัวขึ้นหลังจากทิ้งตัวลง หากการดีดตัวกลับราคายังไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,900-1,911 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงขายซึ่งจะกดดันให้ราคาปรับตัวลง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,872-1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Low ของสัปดาห์ก่อนหน้า และ Low เดือนสิงหาคม)