กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น รายงานว่า ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นลดลง 2.2% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เหลือ 11.35 ล้านล้านเยน นับเป็นสถิติที่ปรับลดลงเดือนที่ 2 ติดต่อกันแล้ว
ในรายงานเบื้องต้นของกระทรวงระบุว่า ยอดค้าปลีกที่ลดลงดังกล่าวเป็นผลมาจากยอดขายเสื้อผ้าและสิ่งทอที่ชะลอตัวลง 9.7% ซึ่งเป็นตัวเลขลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2544 เนื่องจากยอดขายเสื้อผ้าสำหรับหน้าร้อนซบเซามาก ส่วนยอดขายรถยนต์และเครื่องจักรกลก็ลดลง 4.8% และ 4.7% ตามลำดับ
ในขณะที่ยอดขายเชื้อเพลิงขยายตัวขึ้น 0.3% ส่วยอดขายเครื่องสำอางค์และเภสัชกรรมเพิ่มขึ้น 0.4%
แม้ยอดค้าปลีกจะลดลง แต่ทางกระทรวงยังคงไม่ปรับลดระดับการประเมินจากเดือนก่อนหน้า โดยกล่าวว่ายอดค้าปลีก "แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง"
ในขณะที่ยอดค้าส่งเพิ่มขึ้น 6.0% เป็น 39.06 ล้านล้านเยน นับเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 24 ติดต่อกัน ส่วนยอดค้าส่งและค้าปลีกรวมกันเพิ่มขึ้น 4.1% เป็น 50.40 ล้านล้านเยน นับเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 24 ติดต่อกันเช่นกนัน
ยอดขายรวมของซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ลดลง 2.5% เหลือ 1.86 ล้านล้านเยน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนมิ.ย. โดยห้างสรรพสินค้าอย่างเดียวมียอดขายลดลง 5.7% เหลือ 790.6 ล้านเยน หลังจากที่มีการขยายตัว 3.5% ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างเดียวมียอดขายเท่าเดิมที่ 1.07 ล้านล้านเยน
อย่างไรก็ตาม ร้านสะดวกซื้อมียอดขายเพิ่มขึ้น 2.1% เป็น 665.2 ล้านเยน ดีดตัวขึ้นจากการลดลง 2.0% ในเดือนมิ.ย. สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--