นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.63 อยู่ที่ระดับ 85.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 84.0 ในเดือนส.ค.63 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มีปัจจัยบวกจากอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในช่วงที่ผ่านมา ช่วยให้กำลังซื้อในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น สะท้อนจากดัชนียอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณ การผลิต และผลประกอบการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในสินค้าคงทนและไม่คงทน ขณะที่ภาคการส่งออกและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ดี ภายหลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ทำให้ประเทศคู่ค้านำเข้าสินค้าจากไทยได้มากขึ้น
สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 93.3 จากระดับ 94.5 ในเดือนส.ค.63 ทั้งนี้ ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า ภายใต้ความกังวลต่อการระบาดรอบ 2 ของโรคโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหลายประเทศมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง อันเป็นปัจจัยกดดันต่อการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของไทยในระยะต่อไป นอกจากนี้ การสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ในเดือนต.ค. อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจและกำลังซื้อในประเทศ
ประธาน ส.อ.ท.ได้มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้ 1. เร่งเบิกจ่ายงบประมาณผ่านโครงการลงทุนภาครัฐ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 2. ออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ภายหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ในเดือนต.ค. 3.สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่ผลิตจากผู้ประกอบการในประเทศ