นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ส่งผลด้านบวกต่อต้นทุนการนำเข้าพลังงาน โดยเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและยังส่งผลดีต่อฐานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวดีขึ้น โดยมีฐานะติดลบเหลือเพียงประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมสูงถึง 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะหมดภาระราวสิ้นปีนี้หรือต้นปี 51
ขณะนี้กระทรวงพลังงานสามารถเรียกเก็บเงินจากการขายปลีกน้ำมันในประเทศเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้น โดยน้ำมันเบนซินเรียกเก็บเพิ่มเป็น 3.50 บาท/ลิตรแล้ว ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลเข้าสุทธิสูงถึง 4 พันล้านบาท/เดือน
นายประเสริฐ ยังกล่าวกับที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในโอกาสที่ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาการแข็งค่าของเงินบาทว่า หลังจากฐานะกองทุนน้ำมันฯ หมดภาระหนี้แล้วก็เป็นเรื่องที่ภาครัฐจะต้องพิจารณาว่าจะมีนโยบายอย่างไรต่อไป จะหยุดการเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนน้ำมันฯ หรือยังคงเก็บเงินต่อไปเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ในปี 49 ไทยมีมูลค่าการนำเข้าพลังงานทั้งสิ้นประมาณ 9 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของ GDP แต่จากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าขึ้นช่วยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าขึ้น 1 บาทจะช่วยลดต้นทุนน้ำมันได้ลิตรละ 50 สตางค์ ดังนั้นนับจากต้นปี 50 เป็นต้นมา ต้นทุนราคาน้ำมันได้ลดลงไปราวลิตรละ 1.50 บาท
"ถ้าวันนี้เงินบาทอยู่ที่ 37 บาท(ต่อดอลลาร์) ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 30 บาท(ต่อลิตร) แต่ถ้าขยับไปอยู่ที่ 41 บาทเหมือนช่วงต้นปี 50 ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 32 บาท(ต่อลิตร) ถ้าเป็นเช่นนั้นคงมีคนวิตกห่วงใยกันมากว่าจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อ ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุลการค้า" นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะที่เงินบาทแข็งค่าส่งผลดีต่อต้นทุนพลังงาน แต่กลับส่งผลเสียต่อผลประกอบการของธุรกิจด้านพลังงาน เพราะทำให้ราคาขายปลีกหรืออัตรากำไรขั้นต้นจะลดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการอภิปรายแล้วน่าจะทำให้รัฐบาลเห็นประเด็นปัญหาที่ชัดเจน และสามารถนำข้อเสนอแนะของสมาชิก สนช.ไปปรับปรุงแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันภาคเอกชนก็ควรใช้โอกาสนี้ปรับโครงสร้างการผลิต
"เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ต้องใช้หลายๆ มาตรการ ผมไม่คิดว่ามาตรการหนึ่งมาตรการใดจะสามารถจัดการปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนได้" นายประเสริฐ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--