นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.24/25 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.19 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทในช่วงท้ายตลาดวันนี้ปรับตัวอ่อนค่าลงจากช่วงเช้า โดยคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยการเมืองในประเทศ คือการ ชุมนุมของกลุ่มราษฎร ซึ่งวันนี้ประกาศว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพร์ส ในขณะที่ตลาดยังจับตาว่าจะมีเหตุความรุนแรงหรือไม่ ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ สำคัญ คือการบรรลุข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณที่ดี
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.86/90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.39 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1847/1851 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1835 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,216.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.81 จุด (+0.48%) มูลค่าการซื้อขาย 54,423 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,121.33 ลบ.(SET+MAI)
- กลุ่มราษฎร นัดชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฯ ในเวลา 16.00 น. พร้อมระบุด้วยว่าวันนี้จะมีเซอร์ไพร์ส และนอก
จากการนัดชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในจุดหลักบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว ยังมีจุดอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น หน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ,
ลานพ่อขุน มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนการนัดชุมนุมในต่างจังหวัด เช่น หน้ากระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี, สวนเพชรบุระ จ.เพชรบูรณ์,
ตลาดโต้รุ่ง ฝั่งธนาคารกรุงไทย จ.สกลนคร, ลานจอดรถ สำงานสาธารณสุขใหม่ มาบตะพุด จ.ระยอง และศาลาร้อยปี (ศาลากลาง)
จ.ตราด
- ที่ประชุม ศบค.วันนี้มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุก
เฉิน ออกไปอีก 1 เดือน หรือสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย.63 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.63 เนื่องจากขณะนี้ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมาย
พิเศษเพื่อจัดการกับการดูแลสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
- นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้เวลาประมาณ 18.00 น. หลังเคารพธงชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมีแถลงการณ์เรื่องสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน และการร่วมกันนำพาประเทศเดินต่อไป
ข้างหน้า
- การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) คาดการณ์ว่า การค้าโลกน่าจะปรับตัวลดลง 7-9% ในปี
นี้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้จะปรากฏให้เห็นการฟื้นตัวแล้วในบางประเทศ เช่น จีน เนื่องจากการฟื้นตัวดังกล่าวอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับ
การค้าทั้งโลกที่ต่างร่วงลงอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่อนาคตยังมีทิศทางไม่ชัดเจน
- สัปดาห์นี้สหรัฐจะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคาร
กลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จาก
Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต