นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ประชาชนยังให้ความสนใจโครงการ "คนละครึ่ง" ที่ให้ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รับสิทธิซื้อสินค้าตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยที่รัฐบาลจะช่วยจ่ายสมทบให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งมีรายงานว่าช่วง 3 วันแรกของโครงการ (23-25 ต.ค.) มีคนจับจ่ายและรัฐช่วยสมทบแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน
"ใครบอกว่าใช้จ่ายฝืด คลังตั้งใจให้ค่อย ๆ ทยอยใช้จ่าย โดยสมทบวันละ 150 บาท ก็เหมาะสม เพราะมาตรการเพดานสูงสุดที่ 10 ล้านคน ใช้จ่าย 1 ล้านคน ก็มีเงินหมุนเวียนจากรัฐ 150 ล้านบาท 10 ล้านคนก็ 1,500 ล้านบาท" นายกฤษฎา กล่าว
พร้อมยอมรับว่า การใช้จ่ายในช่วง 3 วันแรก ซึ่งเป็นวันหยุดราชการอาจมีติดขัดบ้าง เนื่องจากระบบสั่งจ่ายเงินผ่านธนาคารกรุงไทย ดำเนินการได้เฉพาะวันธรรมดา จึงได้สอบถามไปยังธนาคารกรุงไทยว่าสามารถเบิกจ่ายได้ทุกวันหรือไม่ เพื่อให้การใช้จ่ายในมาตรการมีความราบรื่น
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยอดลงทะเบียนล่าสุดในมาตรการคนละครึ่ง อยู่ที่ 8.7 ล้านคน เหลืออีกประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งมั่นใจว่าจะลงทะเบียนได้ครบที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนได้รับสิทธิ คนละครึ่ง ไปแล้วยังมีโอกาสเลือกได้ว่าจะใช้มาตรการคนละครึ่ง หรือมาตรการช้อปดีมีคืนได้ โดยเลือกได้ว่าจะใช้ประโยชน์จากโครงการไหน
"ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าโครงการคนละครึ่งไปแล้ว แต่เปลี่ยนใจ ต้องการใช้มาตรการช้อปดีมีคืน ก็ห้ามใช้จ่ายภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS แจ้ง ระบบก็จะตัดสิทธิ จากนั้นจึงจะสามารถไปใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืนได้ ต้องประเมินตัวเอง ว่ามาตรการไหนคุ้มค่ากว่ากัน แล้วแต่ผู้บริโภคตัดสินใจ" นายกฤษฎากล่าว