ญี่ปุ่นเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ลดลงจากเหตุแผ่นดินไหว

          ผลสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจในหมู่ผู้ที่ทำงานที่อ่อนไหวง่ายจากสภาวะทางเศรษฐกิจ ลดลงในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากภูมิอากาศที่เลวร้ายและเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจังหวัดนิงาตะที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
          ดัชนีความเชื่อมั่นของญี่ปุ่นในกลุ่มผู้สังเกตการณ์ทางเศรษฐกิจ ลดลงเหลือ 44.7% จาก 46.0% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนั้นยังอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ดีที่ระดับ 50% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ส่งผลให้รัฐบาลลดมาตรฐานการประเมินทางเศรษฐกิจในทันที
          "เราเห็นสัญญาณการอ่อนตัวในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" สำนักงานคณะรัฐมนตรีกล่าว โดยระบุว่า ทางการเพิ่งเห็นสัญญาณดังกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ ในเดือนพ.ค.และ มิ.ย. การถอดคำว่า "เมื่อเร็วๆนี้" ออกจากแถลงการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเชื่อว่าภาวะอ่อนตัวดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
          ทั้งนี้ ดัชนีล่าสุดที่ได้รับการเปิดเผยนับเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2547 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 44.2%
          ดัชนีดังกล่าวอ้างอิงจากการตอบแบบสอบถามของคนขับแท็กซี่ รวมถึงพนักงานโรงแรมและร้านอาหารว่า พวกเขาเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้านี้ โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 50 คนเห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในสภาวะปกติ
          เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้สังเกตการณ์ทางเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริกเตอร์ ที่จังหวัดนิงาตะ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และส่งผลกระทบต่อการผลิตยานยนต์ 
          นอกจากนั้นพายุไต้ฝุ่นในช่วงปลายฤดูฝน ภาระที่หนักหน่วงในการจ่ายภาษี และราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งสูงขึ้น ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้สังเกตการณ์ทางเศรษฐกิจลดลง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน