สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กังวลภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 3/50 อาจเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ แทนที่จะเป็นไตรมาส 2/50 ตามที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม เนื่องจากภาวะการลงทุนไม่ฟื้นตัวตามที่ประเมินไว้ ขณะที่การส่งออกที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญก็ชะลอตัว ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการกลุ่มการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สศค.กล่าวว่า การลงทุนยังไม่ฟื้นตัวตามที่ได้เคยคาดไว้ ประกอบกับการชะลอตัวของการส่งออกทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า โดยปริมาณการส่งออกในเดือนก.ค.ขยายตัวลดลงเหลือ 2.2% จากที่ขยายตัว 2.8% ในเดือนมิ.ย. สะท้อนให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกลดลงมากอย่างชัดเจน
ส่วนด้านการลงทุนก็ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ โดยในเดือน ก.ค.ยังคงชะลอตัว ขณะที่การบริโภคเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ดังนั้นการลงทุนจึงเป็นประเด็นที่จะต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะอาจพลิกให้เศรษฐกิจไตรมาส 3 ของปีนี้กลายเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปี จากที่เคยมองว่าจะเป็นไตรมาส 2
ดังนั้น ปัจจัยเสี่ยงในครึ่งปีหลังจึงหนีไม่พ้นเรื่องการส่งออก การฟื้นตัวของการลงทุน รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐจากผลกระทบปัญหาซับไพร์มและปัญหาจากพื้นฐานของเศรษฐกิจเอง อย่างไรก็ตาม มองว่าช่วงไตรมาส 4 อาจมีปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งเข้ามาเป็นประเด็นบวกได้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง คาดว่าการลงทุนทั้งปี 50 อาจจะขยายตัวเป็น 0% ส่วนการส่งออกในด้านปริมาณมองว่าเติบโต 6.5% จาก 13.1% ในครึ่งปีแรก
นายเอกนิติ ยังคาดว่า แม้การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอลงตัวจากช่วงครึ่งปีแรก แต่เชื่อว่าภาคธุรกิจบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยวจะเข้ามาเป็นตัวช่วยเสริมรายได้ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังจะเติบโตประมาณ 5-6% จากล่าสุดในเดือนก.ค.ยังติดลบอยู่ 1.2% เพราะมองว่าในไตรมาส 4 จะเป็นช่วง High Season ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากและสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศมากในช่วงดังกล่าว
สำหรับทุนสำรองระหว่างประเทศของเดือน ก.ค.50 ซึ่งอยู่ที่ 73,200 ล้านเหรียญสหรัฐ แสดงให้เห็นว่าเสถียรภาพภายนอกประเทศยังมีความมั่นคง เพราะเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้นแล้วจะพบว่าปริมาณทุนสำรองระหว่างประเทศมีมากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้น 3.5 เท่า
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--