ดัชนีเชื่อมั่นอนาคตศก.ภูมิภาคต.ค.ภาพรวมดีขึ้น จากแรงหนุนภาคเกษตร-บริการ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 29, 2020 12:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (RSI) ประจำเดือนต.ค.63 พบว่า ดัชนี RSI เดือนต.ค.63 ชี้แนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเกษตรและภาคบริการของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเกษตรของภาคตะวันออก อย่างไรก็ดี แนวโน้มในบางสาขา โดยเฉพาะการจ้างงานและการลงทุนของ กทม.และปริมณฑล ยังคงชะลอตัว

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 63.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนที่แล้ว โดยมีภาคเกษตรและภาคบริการเป็นปัจจัยสนับสนุน เนื่องจากเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ส่งผลให้ประชาชนออกมาใช้จ่ายมากขึ้น

  • ภาคใต้

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 62.5 สะท้อนถึงการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ เนื่องจากคาดว่าจะมีความต้องการไม้ผลเพิ่มขึ้นและทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น และยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 จะมีราคาเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ยางพาราภายในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังคาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดลดลงจากภาวะฝนตกชุก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการกรีดยางพารา และทำให้เกษตรกรชะลอการเก็บปาล์มน้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปาล์มดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้พลังงานไบโอดีเซลภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น จึงผลักดันให้ราคาปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม คาดว่าความต้องการใช้สินค้าอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นในสินค้าหลายประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม และสินค้าวัสดุก่อสร้าง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศอีกด้วย

  • ภาคตะวันออก

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 60.8 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน โดยมีภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก เนื่องจากแนวโน้มภาคเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตร อาทิ ข้าวนาปี และ มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค รวมถึงมาตรการภาครัฐในการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเพาะปลูก และการให้ความช่วยเหลือด้านราคาสินค้าของเกษตรกร ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม คาดว่าอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจะขยายตัว จากการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มคลี่คลาย

  • ภาคตะวันตก

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ 59.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีภาคเกษตรและภาคการบริการเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก เนื่องจากคาดว่าปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และจะสามารถส่งออกอาหารทะเลไปต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคบริการ ผู้ประกอบการคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะดีขึ้นและจะกลับมาประกอบการได้ตามปกติ

  • ภาคกลาง

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ 56.1 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคบริการ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก และในส่วนของภาคบริการ ภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ อาทิ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และมีโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้มีมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัย

  • ภาคเหนือ

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 55.2 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะในภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นช่วงที่พืชผลทางการเกษตรหลายชนิดของภาคเหนือออกสู่ตลาด เช่น ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ชา และกาแฟ เป็นต้น ประกอบกับยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการเพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และมาตรการช้อปดีมีคืน เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้

  • กทม. และปริมณฑล

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 53.0 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการจากการกลับมาฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาคการลงทุนและการจ้างงานยังชะลอตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ