รายงานข่าว แจ้งว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมการปฏิบัติเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจกลุ่มพิเศษ (Special Tourist Visa : STV) และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตามกระบวนการคัดกรองผู้โดยสารของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พร้อมเยี่ยมชมกระบวนการเก็บสิ่งตรวจ (สารคัดหลั่ง) ของท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีผู้บริหาร บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.ให้การต้อนรับ
โดย รมว.คมนาคม ได้มอบนโยบายให้กับ ทอท.บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินความพร้อมและวางแผนการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานภูเก็ตและท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อรองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว นักธุรกิจกลุ่มพิเศษ (STV) ตามนโยบายรัฐบาลที่จะผ่อนคลายมาตรการให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเชื่อมั่นและมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย
สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ตขณะนี้การคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกขั้นตอน ทุกระบบมีความพร้อมแล้ว โดยเฉพาะกระบวนการเก็บสารคัดหลั่งและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หากมีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกเข้ามาแล้วระบบคัดกรองใช้ได้ผลก็จะนำไปสู่การเพิ่มอัตราการผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น จึงให้จังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการเตรียมการรองรับกรณีที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้อย่างเพียงพอ ทั้งการบริหารจัดการอาคารสถานที่ของท่าอากาศยาน สถานที่กักตัว เครื่องมือ อุปกรณ์ และกระบวนการในการปฏิบัติงาน
นอกจากนี้ ขอให้จังหวัดภูเก็ต กรมเจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการส่งเสริม สนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือยอร์ช เรือสำราญในพื้นที่ภูเก็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งด้วย