รายงานด้านการเงินฉบับล่าสุดของกองทุนเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ในสิงคโปร์ระบุว่า กองทุนเทมาเส็กได้เคลื่อนย้ายเม็ดเงินลงทุนจากภาคธุรกิจการเงินไปลงทุนในภาคธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในจีน เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานการดำเนินธุรกิจของของบริษัทประจำปีงบการเงิน 2549 ระบุว่า ทางกองทุนได้ทุ่มเงินลงทุนรวม 1.1 พันล้านดอลลาร์ในประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2549 โดยส่วนใหญ่ได้ลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัย สินค้าผู้บริโภค ธุรกิจพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงได้มีการนำหุ้นของธนาคารแบงก์ ออฟ ไชน่าเสนอขายต่อประชาชน
แฟรงก์ ถัง กรรมการบริหารและประธานด้านการลงทุนของเทมาเส็กในจีนกล่าวว่า "ประเทศจีนเป็นตลาดการลงทุนที่มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การลงทุนในต่างประเทศของเทมาเส็กมาโดยตลอด"
นอกจากนี้ กองทุนเทมาเส็กยังลงทุนในบริษัทยิงลี่ กรีน เอนเนอร์จี้ บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของจีน และบริษัทคันทรี การ์เด้น หนึ่งในบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าระดับกลาง
"วิถีชีวิตแบบเมืองที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับตัวเลขรายได้ของชาวจีนที่เพิ่มสูงขึ้นต่างเป็นปัจจัยในด้านบวกที่ทำให้เทมาเส็กสนใจที่จะลงทุนในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านสินค้าอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของผู้คน" นายถางกล่าว
ทั้งนี้ เทมาเส็ก ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนโดยกระทรวงการคลังสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทประจำปีงบการเงิน 2549 ปรับร่วงลง 29% แตะที่ 9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์(ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากบริษัทมียอดขายสินทรัพย์ที่ปรับตัวลดลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--