ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าภาพเศรษฐกิจในเดือน ก.ค.50 ซึ่งเป็นเดือนแรกของครึ่งปีหลังมีความผสมผสานของปัจจัยที่ดีขึ้นและปัจจัยที่ถดถอยลง แต่เชื่อว่ามีแนวโน้มที่ปัจจัยหลายอย่างจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐและการเลือกตั้งเป็นประเด็นสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ขณะที่การท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวขึ้นจากการเร่งแผนส่งเสริมด้านการตลาด
นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ค.ว่า อุปทานด้านพืชผลเกษตรและอุตสาหกรรมขยายตัวดีขึ้น แต่การบริโภคและการท่องเที่ยวชะลอตัว ทำให้การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง โดยตั้งแต่ต้นปี 50 จนถึงปัจจุบันไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดแล้ว 6.6 พันล้านดอลลาร์
ด้านอุปสงค์ทรงตัว สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ แนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากปัญหาทางการเมืองที่คลี่คลายลงในระดับหนึ่ง และมีความชัดเจนมากขึ้นในการจัดเลือกตั้งใหม่ ประกอบกับพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยยังอยู่ในระดับที่ดี
"ภาพเศรษฐกิจมัน mix มีทั้งตัวดีและไม่ดี"นางอมรา กล่าว
สำหรับการส่งออกในเดือนก.ค.ที่ชะลอการขยายตัวเหลือเพียง 6.2% ในรูปดอลลาร์ และลดลงถึง 5.8% ในรูปของเงินบาทนั้น ปัจจัยหลักไม่ใช่เรื่องการแข็งค่าของเงินบาทเพียงเรื่องเดียว แต่เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเองก็ชะลอตัวด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ธปท.ตั้งข้อสังเกตว่าภาคการผลิตในเดือนนี้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นโอกาสที่การส่งออกจะเร่งตัวขึ้นในช่วงต่อไปก็ยังมี แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับเศรษฐกิจคู่ค้า เศรษฐกิจโลก และปัญหาซับไพร์ม
ส่วนความเชื่อมั่นเร่งตัวขึ้นทั้งการบริโภคและการลงทุน โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาแนวโน้มเร่งตัวขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะการก่อสร้างที่ซบเซามาโดยตลอด แต่เดือน ก.ค.เร่งตัวขึ้นเห็นได้จากยอดขายปูนซิเมนต์ที่เร่งตัวขึ้น ภาวะการเมืองชัดเจน การใช้จ่ายรัฐเร่งตัว รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมาจะช่วยเร่งการบริโภคและการลงทุนเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันในเดือนก.ค.มีปัญหารุมเร้าหลายอย่าง เช่น การปิดกิจการของโรงงานหลายแห่งจากปัญหาค่าเงินบาท การเมืองไม่นิ่ง สะท้อนให้ความเชื่อมั่นบริโภคลดลง
นางอมรา กล่าวว่า ครึ่งหลังการใช้จ่ายภาครัฐและการเลือกตั้งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกดิจ การท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวหลังจากลดลงต่อเนื่องมา 2 เดือนจากลผลกระทบปัญหาการเมืองและการลอบวางระเบิดในกทม.ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ที่อ่อนไหวต่อความปลอดภัย ไม่เดินทางเข้ามา
แต่ในอนาคตการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)กำลังเร่งสนับสนุนและทำการตลาดด้วยการอัดฉีดงบประมาณจัดงานต่าง ๆ ประกอบกับมีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ รวมถึงเป็นปีที่จะมีการเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ก็น่าจะทำให้การท่องเที่ยวปลายปีเร่งตัวขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--