ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเยน หลังนลท.ชะลอทำ carry trade

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 16, 2007 07:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนชะลอการทำธุรกรรม carry trade ในสกุลเงินเยนและเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เงินปอนด์ ฟรังซ์สวิส และดอลลาร์แคนาดา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 116.92 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 117.83 เยนต่อดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการทำธุรกรรม carry trade ในสกุลเงินเยน ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวเป็นวิธีที่นักลงทุนกู้ยืมสกุลเงินเยนที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ ไปลงทุนในสกุลเงินอื่นๆที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า
เมื่อคืนนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐอาจบานปลายจนทำให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อทั่วโลก แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารเพิ่มขึ้นอีกก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3460 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.3543 ดอลลาร์ต่อยูโร
ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.9935 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.9972 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ขณะที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.2190 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.2109 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.0777 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0680 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายพอล แจ็คสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตในกรุงลอนดอนกล่าวว่า "ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หลังจากสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลงได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปในช่วงไตรมาส 2"
"ข้อมูลเศรษฐกิจทั้งในยุโรปและอังกฤษอ่อนตัวลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จึงทำให้สกุลเงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บันทึกการประชุมครั้งหลังสุดของธนาคารกลางอังกฤษบ่งชี้ว่า คณะกรรมการของธนาคารกลางยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้ถึงระดับ 5.75% ในระยะนี้" นายแจ็คสันกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ