น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) รับทราบผลการดำเนินงานโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
สำหรับโครงการดังกล่าวมีกรอบวงเงินลงทุนโครงการเบื้องต้น 35,201 ล้านบาท มีอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุนเท่ากับ 1.12 และผลตอบแทนทางการเงินเท่ากับ 2.34% ผลการศึกษาวิเคราะห์รูปแบบ PPP ในเบื้องต้นพบว่า PPP Net Cost มีความเหมาะสม โดยรฟม.จะดำเนินการตามขั้นตอนของพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเห็นว่าโครงการขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต จะช่วยพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของจ.ภูเก็ตให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาการจราจร เสริมสร้างศักยภาพระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง สนับสนุนและรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน โดยตามแผนการดำเนินงานโครงการนั้น ครม.จะอนุมัติรูปแบบการลงทุนโครงการได้ในเดือนต.ค.64 คัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการในเดือน มี.ค.65 - มี.ค.66 เริ่มก่อสร้างเดือนเม.ย.66 และเปิดให้บริการในเดือนก.ค.69
สำหรับความก้าวหน้าโครงการ ทางคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางบกและอากาศ(คชก.) ได้พิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2561 และมีมติให้ปรับปรุงแก้ไขและจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมในรายงาน EIA ก่อนนำเสนอคชก.พิจารณาอีกครั้ง ในส่วนของการตราพระราชกฤษฎีกาให้อำนาจรฟม.ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจ.ภูเก็ตนั้น ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2562 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.2562
นอกจากนี้ยังได้จัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 มีรายละเอียดของโครงการดังนี้คือ แนวเส้นทางโครงการของระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 จะเริ่มจากสถานีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตและไปสิ้นสุดบริเวณห้าแยกฉลอง ระยะทางรวม 42 กิโลเมตร มีสถานีทั้งสิ้น 21 สถานี มีศูนย์ซ่อมบำรุงตั้งอยู่บริเวณใกล้ห้างเทสโก้โลตัสถลาง
ส่วนของระบบรถไฟฟ้า จะเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบาประเภท Tram แบบพื้นต่ำ เป็นระบบล้อเหล็กหรือล้อยาง ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้ระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือศีรษะ และมีระบบแบตเตอรี่สำรองสำหรับขับเคลื่อนในระยะสั้น คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารประมาณ 39,000 คน/วัน