ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.04/07 แข็งค่าตามภูมิภาค รอลุ้นผลเลือกตั้งปธน.สหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 3, 2020 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.04/07 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.09/11 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก ยังลุ้นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งโอกาสความไม่แน่นอนยังมีสูง จึงทำให้นักลงทุนขายดอลลาร์ออกมา

"วันนี้บาทแข็งค่า จากที่นักลงทุน unwind the position เพื่อรอดูผลการเลือกตั้ง ซึ่งแม้ผลโพลล์ตอนนี้จะไปที่ไบเดน มา กกว่าทรัมป์ แต่โอกาสสูสี จึงมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้นักลงทุนถือดอลลาร์น้อยลง" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.70 - 31.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.65/69 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.70/75 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1690/1695 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1649/1653 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,221.33 จุด เพิ่มขึ้น 19.17 จุด (+1.59%) มูลค่าการซื้อขาย 50,170 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,249.33 ลบ.(SET+MAI)
  • นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก
รัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะลงนามในร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ภายหลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจ
พิจารณาร่างดังกล่าวเสร็จแล้ว ทั้งนี้เพื่อเตรียมส่งไปยังรัฐสภาต่อไป
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ปรับคาดการณ์การส่งออกของไทยปี 63 ดีขึ้นมาเป็นหด
ตัวเหลือ -7% จากก่อนหน้านี้ที่ประเมินไว้ที่ -8% เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์การส่งออกเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นแล้ว จากแนวโน้มเศรษฐกิจ
การค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนด้วยเช่นกัน
  • สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในวันนี้ (3 พ.ย.
63) หากผลการเลือกตั้งออกมานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้สมัครชิงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกัน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง และ
ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย น่าจะเป็นผลบวกต่อประเทศไทยมากกว่านายโจ ไบเดน เพราะประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ
และจีนคาดว่าใกล้จะจบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการปรับขึ้นเพดานภาษีจะเริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นไปมากแล้ว
  • ธนาคารกลางมาเลเซีย มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% นับเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุม
วันนี้ ขณะเดียวกันยังเตือนว่าเศรษฐกิจมาเลเซียมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็น
ปัจจัยคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 0.10% จากระดับ 0.25% พร้อมระบุว่า
เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในขณะนี้แล้ว คณะกรรมการ RBA จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี
  • นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า นักลงทุนจะเข้าซื้อเงินเยนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงเวลาที่

สถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐยังคงไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผลการนับคะแนนออกมาแบบสูสี หรือไม่มีผู้ใดชนะแบบ

ขาดลอย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ