นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.15 บาท/ดอลลาร์ โดยผันผวนไปตามผลการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายโจ ไบเดน ผู้ สมัครจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้สมึครจากพรรครีพับลิกัน
"บาทผันผวนไปตามผลการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ถ้าทรัมป์คะแนนนำบาทก็จะอ่อนค่า แต่ถ้าไบเดนกลับมานำ บาทจะกลับมาแข็งค่า" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 30.95-31.20 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดจับตาดูผลการ นับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
THAI BAHT FIX 3M (4 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.40851% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.39336%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 104.28 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.88 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1724 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1675 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1260 บาท/ดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ หรือตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือน ต.ค.63
- สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะในรัฐ
มิชิแกน และวิสคอนซิน ซึ่งเพิ่มโอกาสให้กับนายไบเดนที่จะช่วงชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยชัยชนะดังกล่าว
เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ได้เปิดฉากว่าจะใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อระงับการนับคะแนนในอย่าง
น้อย 2 รัฐ โดยนายไบเดนมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสหรัฐหรือ Electoral Vote เพิ่มขึ้นเป็น 264 คะแนน แซงหน้าปธน.ทรัมป์ซึ่งมี
คะแนน 214 คะแนน ซึ่งนายไบเดนต้องการอีกแค่ 6 คะแนนเท่านั้นก็จะได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 คะแนนจากทั้งหมด 538 คะแนน
เพื่อชนะการเลือกตั้ง
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.)
เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ชะลอตัวลงในเดือนต.ค.
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ในเวลา 14.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่หนังสือ
พิมพ์เทเลกราฟระบุว่า BoE อาจจะพิจารณาเรื่องการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ย.ของเกาหลีใต้, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก
และดุลการค้าเดือนก.ย.ของออสเตรเลีบ, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.ของเยอรมนี, ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบาย
การเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของอียู, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ
- กกร.เผยไตรมาส 3 เศรษฐกิจไทยได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในประเทศ ส่งผลให้ส่งออกดีขึ้น การใช้จ่ายใน
ประเทศเพิ่มขึ้น จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแต่ห่วงต้นปี 64 ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าอาจขาดแคลน ทำให้ กกร.ประมาณการส่งออกปีนี้
ไว้ที่ -10% ถึง -8% เหมือนเดิม ขณะที่เศรษฐกิจไทยจะหดตัวในกรอบ -9.0% ถึง -7.0%