กฤษฎีกาเตรียมส่งร่าง พ.ร.บ.ค้าปลีกฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ก.ย.นี้

          แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ใกล้เสร็จแล้ว และคาดว่าภายในเดือน ก.ย.นี้จะส่งกลับให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาว่าจะนำความเห็นของกฤษฎีกาไปแก้ไขในร่างกฎหมายหรือไม่ ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งในขั้นนี้จะมีร่างกฎหมายที่สมาชิก สนช.นำเสนอแล้วพิจารณาควบคู่กับร่างของรัฐบาล
          สำหรับสาระสำคัญที่กฤษฎีกามีความเห็นให้แก้ไข คือ การจำกัดอำนาจคณะกรรมการกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง(กกค.) ให้อยู่ในขอบเขตดูแลปัญหาค้าปลีกค้าส่งใน 3 แนวทางคือ การดูแลไม่ให้ค้าปลีกขนาดใหญ่มากเกิน 1,000 ตารางเมตรขึ้นไปขยายสาขาหรือมีเวลาปิด-เปิดที่กระทบต่อค้าปลีกขนาดเล็ก
          การดูแลร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่เป็นตัวปลอม เช่น เอ็กซ์เพรสของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และดูแลการขยายตัวของธุรกิจแฟรนไชส์ค้าปลีกที่เกิดจากการดำเนินการของบริษัทขนาดใหญ่ เช่น เอ็กซ์เพรสของห้างเทสโก้ โลตัส แต่อาจยกเว้นแฟรนไชส์ที่เกิดจากการปรับตัวของโชว์ห่วย เช่น เจ้าของกิจการร้านโชห่วยซื้อแฟรนไชส์มาดำเนินการ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น, 108 ช็อป, แฟมิลี่มาร์ท เป็นต้น 
          แหล่งข่าวกล่าวว่า กฤษฎีกาเห็นควรให้ยกเลิกคณะกรรมการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง กกค.เพราะเห็นว่าหากมีขั้นตอนการสรรหามากเกินไปจะทำให้การตั้ง กกค.ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ส่วนมาตรการพัฒนาโชห่วยได้ปรับปรุงให้มีความชัดเจนขึ้น โดยเน้นให้แก้ปัญหาที่โชห่วยมีอยู่ เช่น เงินทุน, องค์ความรู้ในการบริหารจัดการ 
          สำหรับหลักการของกฎหมายฉบับนี้เพื่อต้องการให้การค้าระหว่างรายเล็กและรายใหญ่อยู่ร่วมกันได้โดยรายใหญ่ไม่สร้างผลกระทบให้รายเล็ก ซึ่งปัญหาหลักอยู่ที่สถานที่ตั้งและเวลาปิด-เปิด