นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. สำหรับฤดูการผลิตปี 2560/2561 ในอัตรา 790.62 บาทต่อตันอ้อย และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 338.84 บาทต่อตันอ้อย
ส่วนฤดูการผลิต ปี 2561/2562 ในอัตราตันอ้อยละ 680.77 และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายเท่ากับ 291.76 บาทต่อตันอ้อย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฤดูการผลิตนั้น (60/61 และ 61/62) นั้น ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้น และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจึงต้องจ่ายชดเชยให้กับโรงงานในฤดูการผลิต 60/61 จำนวน 19,730.74 ล้านบาท และฤดูกาลผลิตปี 61/62 จำนวน 3,068.47 ล้านบาท รวม 22,799.21 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้จากโรงงานนำส่งเงินเข้ากองทุน ฯ รวม 2 ฤดูการผลิต อยู่ที่ 4,649.46 ล้านบาท
นายอนุชา กล่าวยืนยันว่า การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2560/2561 และ ฤดูการผลิตปี 2561/2562 ไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ แต่เป็นการรักษาประโยชน์ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย รวมทั้งเป็นการสร้างหลักประกันอย่างพอเพียงและเหมาะสมให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย