นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในปีงบประมาณ 50 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในเอกสารงบประมาณไม่เกิน 1.5% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรต่ำกว่าเป้าหมายและการคืนภาษีของกรมสรรพากรสูงกว่าเป้าหมายมาก แต่ยังโชคดีที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ และรัฐบาลได้รับรายได้พิเศษจากส่วนเกินการจำหน่ายพันธบัตร
สำหรับในเดือน ก.ค.50 การจัดเก็บรายได้รัฐบาลต่ำกว่าประมาณการ 4,280 ล้านบาท หรือ 4.7% ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 50(ต.ค.49-ก.ค.50) การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่ำกว่าประมาณการ 234 ล้านบาท แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 65,435 ล้านบาท มีสาเหตุจากภาวะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 3,180 และ 425 ล้านบาท ตามลำดับ
รองลงมาได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์เก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 450 ล้านบาท นอกจากนี้การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจต่ำกว่าประมาณการ 484 ล้านบาท เนื่องจากรัฐวิสาหกิจบางแห่งไม่ได้นำส่งรายได้ และรัฐวิสาหกิจบางแห่งได้เลื่อนการนำส่งไปเดือนหน้า
ขณะที่ช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 50 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,130,375 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 234 ล้านบาท หรือ 0.02% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 6.1%
หากแยกการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานพบว่า กรมสรรพากรจัดเก็บได้รวม 869,788 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 8,671 ล้านบาท หรือ 1% โดยจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ต่ำกว่าประมาณการ 20,325 ล้านบาท หรือ 5.3% เพราะเป็นผลจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าลดลง แต่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศยังมีการขยายตัวสูงกว่า ช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 9.2% ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,979 ล้านบาท แต่ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 13,789 ล้านบาท
ขณะที่กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 242,107 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,603 ล้านบาท หรือ 0.7% หากไม่รวมภาษีโทรคมนาคมที่ได้ประกาศลดอัตราภาษีเป็น 0% แล้ว จะสูงกว่าประมาณการ 7,175 ล้านบาท หรือ 3% โดยภาษียาสูบ เบียร์ และสุราจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 13,063 ล้านบาท
"การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับผลกระทบจากการชะลอการใช้จ่ายของประชาชนเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 5,909 ล้านบาท
ส่วนกรมศุลกากรจัดเก็บได้รวม 74,620 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 965 ล้านบาท หรือ 1.3% เนื่องจากอากรขาเข้าและรายได้อื่นจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 891 ล้านบาท
และรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ 82,280 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการเอกสารงบประมาณ 11,254 ล้านบาท หรือสูงกว่า 15.8% เนื่องจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่งนำส่งรายได้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่สำคัญ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) และ บมจ.ปตท. จำกัด (PTT)
นอกจากนี้ หน่วยงานอื่นนำส่งรายได้รวม 70,589 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 6,114 ล้านบาท คิดเป็น 9.5% เนื่องจากได้รับเงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล (Premium) จำนวน 11,000 ล้านบาท แต่รายได้จากค่าภาคหลวงปิโตรเลียมและเงินผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 5,900 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--