นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้จะสามารถลงนามในสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาวทั้ง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการน้ำเทิน 1, โครงการน้ำเงี้ยบ, โครงการน้ำงึม 3 และโครงการน้ำเทิน-หินบุน(ส่วนขยาย)
ส่วนการขยายการรับซื้อไฟฟ้าจากการเปิดประมูลโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่(IPP) จากเดิมที่เปิดประมูล 3,200 เมกะวัตต์นั้น จะรอพิจารณาข้อเสนอจากเอกชนในวันที่ 19 ต.ค.50 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการปิดรับข้อเสนอ แต่ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่จะรับซื้อเพิ่ม เพราะการลงนามระหว่างรัฐต่อรัฐนับจากรัฐบาลใหม่เป็นต้นไปอาจมีความล่าช้า เนื่องจากตามกฎหมายใหม่กำหนดให้ต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรด้วย ไม่ใช่การตัดสินใจของรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว
รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมของบประมาณปี 51 จำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์และประหยัดพลังงานในภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการโรงงาน โดยจะนำไปปล่อยเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการนำไปปรับปรุงโรงงาน ซึ่งเป็นการของบประมาณเพิ่มเติมจากก่อนหน้าที่เคยขอไว้แล้ว 4,000 ล้านบาทซึ่งกำลังจะหมดในปีนี้
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานมีแนวคิดจะจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการเพื่อใช้ในโครงการประหยัดพลังงาน โดยได้หารือกับ บลจ.เอ็มเอฟซี(MFC) ที่เตรียมจะเปิดตัวกองทุน Energy Fund ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือน โดยตั้งเป้าหมายการประหยัดพลังงานของประเทศในอนาคต จากเดิมที่ยังไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนนัก
ทั้งนี้ คาดว่าการใช้พลังงานของไทยในปีนี้น่าจะปรับลดลงจากปีก่อน เนื่องจากมีการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนทั้งแก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล ทำให้มีการใช้พลังงานทดแทนเหล่านี้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--