แหล่งข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสิน (บอร์ดออมสิน) วันที่ 17 พ.ย.63 จะมีการพิจารณาผลการคัดเลือก non bank ที่ยื่นความประสงค์จะเข้ามาเป็นพันธมิตรหรือร่วมทุนกับธนาคารออมสินในการทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งได้ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์แล้ว 1 ราย จากที่เข้ารอบสุดท่ายมาทั้งหมด 8 ราย
โดยรายที่ผ่านคุณสมบัตินี้ถือว่ามีข้อเสนอที่ดีที่สุดและให้ราคาดีที่สุด เนื่องจากธนาคารไม่ได้ตั้งธงว่าจะต้องเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง หรือรายเล็ก แต่เป็นการพิจารณาจากข้อเสนอด้านราคาและความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจร่วมกันปล่อยสินเชื่อ โดยเริ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
แหล่งข่าว กล่าวว่า ออมสินเองมีจุดแข็งสำคัญคือมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้น non bank ที่เข้ามาร่วมทุนอาจไม่ต้องเป็นรายใหญ่ก็ได้ แต่หากเป็นรายที่มีข้อเสนอที่ดี ระบบดี และให้ราคาที่ดีกว่า ก็จะยิ่งดี เพราะถือว่าเป็นการช่วยเสริมกัน แต่หากรายเล็กให้ราคาที่ดี และมีระบบการดำเนินงานที่ดี ก็ถือว่ามีความน่าสนใจ หรือหากเป็นรายใหญ่ที่มีสาขาจำนวนมากก็จะช่วยส่งเสริมกันแต่ราคาที่เข้าซื้อกิจการอาจจะสูง
วัตถุประสงค์ของธนาคารออมสินที่จะเข้าซื้อกิจการ non bank เข้ามาร่วมปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เพราะมองว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในตลาดปัจจุบันที่ระดับ 24% ต่อปี ทั้ง ๆ ที่เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน ถือว่าสูงกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากเป็นอัตราเดียวกับสินเชื่อบุคคลประเภทอื่น เช่น บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต ที่ไม่มีหลักประกันดีเท่าเทียมกัน จึงทำให้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) สูงมาก ออมสินจึงหวังว่าการเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยต่ำลง และน่าจะมีส่วนช่วยดึงให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทอื่นๆ ให้ปรับลดลงด้วย
ขณะที่การเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรนี้ธนาคารออมสินยึดแนวทางความโปร่งใสในการคัดเลือกบริษัทที่จะมาร่วมทุน ซึ่งได้มอบหมายให้บริษัทชั้นนำขนาดใหญ่เข้ามาเป็นที่ปรึกษา ทั้งที่บริษัทปรึกษาด้านการเงิน และบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เพื่อต้องการให้การคัดเลือกพันธมิตรครั้งนี้มีความโปร่งใสมากที่สุดและสามารถตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่าง ๆ ได้
ทั้งนี้ คาดว่าหลังการเจรจาร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงต้นปี 64