นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ได้รับมอบนโยบายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ให้เร่งขยายฐานจัดเก็บภาษี โดยในปี 2564 กรมฯ ตั้งเป้าหมายผลการดำเนินงาน (Object to Key Result หรือ OKR) 2 เรื่อง คือ 1.ขยายฐานผู้เสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก 5 แสนราย และ 2.จัดเก็บภาษีให้เข้าเป้าหมายที่วางไว้ 2.085 ล้านล้านบาท จากปี 2563 ที่จัดเก็บภาษีได้ 1.83 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.8 แสนล้านบาท เนื่องจากผลกระทบโควิด-19
สำหรับการขยายฐานภาษีเพิ่มอีก 5 แสนราย มาจากข้อมูลผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พบว่ายังมีอีกกว่า 6 ล้านรายที่ไม่เคยมายื่นแบบเสียภาษี ทั้งที่เป็นธุรกิจออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้เสียภาษีถูกต้อง จะต้องเร่งดึงเข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง ให้ความรู้ผู้เสียภาษี ซึ่งกรมมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว
"ในเดือน มี.ค.นี้ ถึงกำหนดยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรมฯ ก็จะเร่งไปติดตามผู้อยู่นอกฐานเสียภาษี เข้าข่ายหลบเลี่ยงอีกกว่า 6 ล้านราย มาเสียภาษีให้ถูกต้อง" นายเอกนิติ กล่าว
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2562 ที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีในปี 2563 มีจำนวนผู้ยื่นแบบรวม 9.55 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.5 แสนราย แต่มีผู้เสียภาษีจริงแค่ 3.3 ล้านรายเท่านั้น (พิจารณาจากฐานรายได้ 25,000 บาท/เดือนที่ต้องเสียภาษี)
นอกจากนี้ จะต้องเร่งขยายฐานภาษีในส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งปัจจุบันมีการจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์กว่า 6 แสนราย แต่มาเสียภาษี (ภ.ง.ด.50/51) เพียง 4.5 แสนรายเท่านั้น จำเป็นต้องนำมาอยู่ในฐานภาษีให้หมด เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ผู้เสียภาษี
ทั้งนี้ กรมฯ จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของรายได้ของกรมฯ ที่จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการรัฐบาลที่ออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ทั้งมาตรการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน ก็จะมีภาษีมูลค่าเพิ่มกลับคืนมา สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว