กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.5% ไปจนถึงปี 2551 เนื่องจากความต้องการสินค้ายุโรปลดลงเล็กน้อย และเนื่องจากนโยบายนโยบายเศรษฐกิจที่เข้มงวดขึ้น
รายงานของ IMF ซึ่งมีขึ้นหลังการประชุมกับเจ้าหน้าที่ยุโรปประจำเดือนมิถุนายนบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลงจากระดับ 3% ในช่วงไตรมาสที่ผ่าน มาสู่ระดับ 2.5%
IMF กล่าวว่า แม้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจยุโรปจะชะลอตัวลง แต่แนวโน้มดังกล่าวถือเป็นแนวโน้มที่ดีที่สุดในรอบหลายปี โดยปัจจัยตามวัฏจักรและนโยบายเศรษฐกิจมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างคงที่ ขณะที่ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศในยุโรปอยู่ในภาวะสมดุล และการเติบโตด้านการส่งออกอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าค่าเงินยูโรจะแข็งค่าก็ตาม
อย่างไรก็ดี เสถียรภาพของเงินเฟ้อที่ระดับต่ำกว่า 2% อาจเป็นระดับที่เหมาะสมในการดำเนินนโยบายการเงินอย่างรัดกุมอย่างต่อเนื่องในอนาคต
เคน วัตเทรท์ จาก บีเอ็นพี พาริบาส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปน่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้ เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อเสถียรภาพของเงินเฟ้อ โดยขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอยู่ที่ระดับ 4.25%
ทั้งนี้ นายวัตเทรท์กล่าวว่า หากค่าเงินยูโรแข็งค่ามากกว่า 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโรอาจทำให้ขั้นตอนการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีความซับซ้อนมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--