นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศเรื่อง การจัดการประชุมของนิติบุคคลภายใต้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2563 กำหนดให้บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด สมาคมการค้า และหอการค้า ที่มีรอบปีบัญชีก่อนหรือในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่ยังไม่ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นหรือสมาชิก ให้เร่งจัดประชุมอย่างช้าไม่เกินวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เมื่อจัดประชุมเสร็จให้ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ยื่นงบการเงิน และยื่นหนังสือชี้แจงการจัดประชุมล่าช้าภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
"เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถดำเนินต่อไปอย่างไม่สะดุด ประเทศไทยมีข้อมูลตัวเลขงบการเงินที่สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นปัจจุบัน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด สมาคมการค้า และหอการค้าที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2562 ถึง 31 กรกฎาคม 2563 ให้เร่งจัดประชุมตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นี้" อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุ
โดยปัจจุบัน มีนิติบุคคลยื่นงบการเงินแล้วจำนวน 78% คงเหลือที่ยังไม่ได้ยื่นอีก 22% ขอให้เร่งดำเนินการให้เรียบร้อยภายในกำหนดเวลา เนื่องจากข้อมูลงบการเงินถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะบ่งบอกถึงศักยภาพและขีดความสามารถของธุรกิจ ซึ่งนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศส่วนใหญ่นิยมใช้ข้อมูลงบการเงินที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยแพร่ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนหรือร่วมทุนกับธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเครื่องการันตีว่าธุรกิจของท่านมีธรรมาภิบาล แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ โปร่งใส นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือและน่าร่วมลงทุนอีกด้วย
นายทศพล ระบุว่า ตามกฎหมายแล้ว บริษัทจำกัด, บริษัทมหาชนจำกัด ต้องนำเสนองบการเงินเพื่ออนุมัติต่อที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นภายใน 4 เดือนนับแต่วันปิดรอบปีบัญชี และเมื่องบการเงินได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่แล้ว บริษัทจำกัดจะต้องยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ภายใน 14 วัน ส่วนบริษัทมหาชนจำกัดจะต้องยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บมจ.006) ภายใน 1 เดือน และมีหน้าที่ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายใน 1 เดือน สำหรับสมาคมการค้าและหอการค้า ต้องนำงบดุลเข้าที่ประชุมสมาชิกภายใน 120 วันนับแต่วันสิ้นปีการบัญชี และยื่นงบดุลภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีการประชุมใหญ่
แต่เนื่องจากเดือนมีนาคม 2563 ประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดประชุมของนิติบุคคล กรมฯ จึงออกประกาศเรื่อง มาตรการรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้นิติบุคคลสามารถจัดประชุมอนุมัติงบการเงินล่าช้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย หรือจนกว่าจะพร้อม แต่เมื่อจัดประชุมแล้วเสร็จจะต้องยื่นหนังสือชี้แจงเหตุผลต่อนายทะเบียน
นายทศพล กล่าวว่า ปัจจุบัน รัฐบาลได้ออกมาตรการผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการและประชาชน สามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง อันเป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสาธารณสุขของประเทศ และกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับการผ่อนคลายให้สามารถดำเนินการได้ คือ การจัดประชุม หรือกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในห้องประชุม แต่ต้องมีมาตรการการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19