ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบศ. ได้เห็นชอบตามการเสนอของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในมาตรการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย 2 มาตรการ
1. แพ็คเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมห้องพัก ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง บมจ.การบินไทย กับสมาคมโรงแรมไทย โดยจะเป็นแพ็คเกจท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากที่นักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านระยะเวลาการกักตัวเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้รัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถยนต์ให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย
2. เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนอื่นๆ ในประเทศไทย ผ่านการเป็นสมาชิกบัตรอีลิทการ์ด แบบ Flex Plus ของชาวต่างประเทศ โดยต้องเป็นโดยเป็นสมาชิกที่มีมูลค่าบัตรมากกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป และอายุบัตรตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป โดยมีเงื่อนไขที่จะต้องลงทุนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่ได้รับการอนุมัติให้เป็นสมาชิก โดยสามารถลงทุนใน 3 รูปแบบ คือ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามสิทธิที่ต่างชาติพึงได้รับ, ลงทุนในบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด และลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งหุ้นสามัญ หรือหุ้นกู้ เป็นต้น
"เมื่อมีการลงทุนครบ และมีหลักฐาน สามารถยื่นขอ work permit ในไทยได้...กรณีนี้ เราขอหลักการว่าประเภทวีซ่า PE ที่เป็นวีซ่านักท่องเที่ยว ถ้ามีการลงทุน 1 ล้านเหรียญ ภายใน 1 ปี และคงหลักฐานการลงทุนในไทย 5 ปี สามารถยื่นขอ work permit ได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นี่คือหลักการที่ ศบศ.อนุมัติเบื้องต้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนที่มีคุณภาพ" ผู้ว่าการ ททท.ระบุ
ส่วนมาตรการคนละครึ่งนั้น ที่ประชุม ศบศ. เห็นว่าสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนได้ในวงกว้าง ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงคลังไปพิจารณาว่าจะทำเฟส 2 ในลักษณะใด เช่น จะสามารถขยายเวลา หรือปรับปรุงมาตรการให้ครอบคลุมมากขึ้นอย่างไร และนำกลับมาเสนอ ที่ประชุมศบศ.ในวันที่ 2 ธ.ค.