ลี เฮียง กุย นักวิเคราะห์จากธนาคาร CIMB เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเอเชียยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญความผันผวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐที่ยังไม่มีทีท่าจะสิ้นสุดลงในเร็ววันนี้ แต่คาดว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเอเชียจะไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงมากนัก เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในภาคเอกชนยังแข็งแกร่ง อีกทั้งระบบการเงินในภูมิภาคเอเชียยังมีสภาพคล่องหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก
ลีกล่าวในแถลงการณ์ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติในตลาดสินเชื่อของสหรัฐร้ายแรงมากนัก แต่ในส่วนของตลาดหุ้นนั้นจะฟื้นตัวดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าผลกระทบใดๆก็ตามที่สืบเนื่องจากปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวงจำกัด
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ตลาดหุ้นที่ทุรดตัวลงในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินหลายแห่งในออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ซึ่งประสบภาวะขาดทุนอันเนื่องมาจากวิกฤติตลาดซับไพรม์โดยตรง
"เราคาดว่าคุณภาพของสินทรัพย์ในตลาดซับไพรม์จะฟื้นตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และปัญหาซัมไพรม์จะไม่ไหลทะลักเข้าสู่ระบบการธนาคารในวงกว้างมากขึ้น"ลีกล่าว
โดยเขาเชื่อว่าความผันผวนในตลาดเงินทั่วโลกน่าจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในช่วงสั้นๆ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกขยายตัวแข็งแกร่งตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทเอกชนในเอเชียที่ขยายตัวขึ้นแข็งแกร่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--