ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และฟรังซ์สวิส หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน หลังจากนายโฮโรกิ ทสึดะ รมช.คลังของญี่ปุ่นกล่าวว่า กระทรวงการคลังจะจับตาดูตลาดการเงินและวิกฤตการณ์ในตลาดซับไพรม์อย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3637 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3645 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 115.75 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 114.88 เยนต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.2027 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.990 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0586 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0607 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัวขึ้น 4% ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวขึ้นเพียง 3.4% โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่งเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐปรับตัวลดลง และยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นในสหรัฐอาจเป็นเพียงภาวะระยะสั้นๆ เนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อยังไม่คลี่คลาย และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงครึ่งปีหลัง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แจ้งให้วุฒิสมาชิกชาร์ลส์ ชูเมอร์ รับทราบว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดกำลังพยายามทุกวิถีทางหากพบว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนบางกลุ่มคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าหรือไม่ หลังจากเกิดภาวะผันผวนในตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อทั่วโลก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--