ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร-เยน หลังธ.กลางฉีดเงินเข้าระบบ

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เงินเยน และเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางประเทศอื่นๆได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารในประเทศของตนเองเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3619 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3696 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลงจากระดับ 2.0137 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0230 ดอลลาร์ต่อปอนด์ และดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 118.36 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 118.34 เยนต่อดอลลาร์
          ตลาดการเงินหลายแห่งฟื้นตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะเฟดและธนาคารกลางยุโรป ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารเพิ่มขึ้นเพื่อบรรเทาภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปมองว่า สภาวะตลาดในขณะนี้อยู่ในระดับปกติแล้ว
          ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เฟดได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารแล้ว 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปปล่อยสภาพคล่องกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ และธนาคารกลางญี่ปุ่นอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการธนาคาร
          ขณะเดียวกันเฟดได้แถลงการณ์ว่า เฟดจะจัดหาเงินทุนให้มากพอที่จะป้องกันไม่ให้การดำเนินงานหยุดชะงัก โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เฟดออกแถลงการณ์เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ตลาดตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรมวันที่ 11 ก.ย.ปี 2544 เป็นต้นมา
          นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 0.3% หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐฏิจโดยรวมของสหรัฐ และเป็นตัวเลขที่นักวิเคราะห์จับตาดูมากที่สุด