นางสมจินต์ เปล่งขำ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกสินค้าอาหารแช่แข็ง กุ้ง ทูน่ากระป๋อง เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณี และสิ่งทอ มีความกังวลว่าการส่งออกโดยรวมในปีนี้ไม่น่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย เพราะตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ มีปัญหาเศรษฐกิจภายใน โดยเฉพาะปัญหาซับไพร์มที่ทำให้รายได้ประชาชนลดลงส่งผลต่อเนื่องให้กำลังซื้อลดลง กระทบกับการนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกลงรวมทั้งไทยลดลงด้วย
นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าและปัญหาเฉพาะรายสินค้า เช่น สหรัฐฯ เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) สินค้ากุ้งและข้าวโพดหวาน ขณะเดียวกันก็ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) โทรทัศน์สีจอแบน, เครื่องประดับทำจากโลหะมีค่า ส่วนทูน่ากระป๋องมีปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบและราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตาม เหตุผลดังกล่าวทำให้ศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยลดลงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง
วันนี้กรมส่งเสริมการส่งออกหารือร่วมกับภาคเอกชนผู้ส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรกรแปรรูป และสินค้าอุตสาหกรรม หลังจากที่มูลค่าการส่งออกในเดือนก.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 11,810 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.9% ต่ำสุดในรอบ 29 เดือน
นางสมจินต์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมั่นใจว่าการส่งออกโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารในปีนี้ยังขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 8% มูลค่า 10,336 ล้านเหรียญสหรัฐ และการส่งออกโดยรวมยังขยายตัวที่ 12.5% มูลค่า 145,000 ล้านเหรียญ ส่วนจะส่งออกได้มากกว่านี้หรือไม่ต้องรอดูผลการส่งออกในเดือนส.ค.ก่อน
สำหรับผลการหารือดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์จะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการประชุมร่วมกับทูตพาณิชย์ทั้ง 56 แห่งทั่วโลก และที่ปรึกษาทางการค้ากิตติมศักดิ์จากทั่วโลก ในเดือนก.ย.นี้ เพื่อกำหนดแผนการทำงานในการส่งเสริมการส่งออกอย่างเข้มข้นในช่วง 3 เดือนหลังของปีนี้ และการกำหนดเป้าหมายการส่งออกในปี 51 รวมถึงจะกำหนดยุทธศาสตร์การส่งออกเป็นรายภูมิภาคด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--