ธนาคารกลางมาเลเซียเปิดเผยว่า สภาพคล่องในระบบการเงินของมาเลเซียมีอยู่มากเพียงพอ และธนาคารกลางยังไม่มีแผนที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอีกในระยะนี้
"เรามีสภาพคล่องในระบบการเงินที่มากพอ ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในระยะนี้ แม้ธนาคารกลางทั่วโลกได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารของแต่ละประเทศเพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจหลังจากเกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อในสหรัฐ" นางเซติ อัคตาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียกลาวกับผู้สื่อข่าวภายหลังจากเปิดการประชุมการเงินอิสลามแห่งมาเลเซียครั้งที่ 2
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า วิกฤตการณ์ตลาดซับไพรม์ในสหรัฐส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางในประเทศอื่นๆ ได้อัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบการธนาคารในประเทศของตนเอง เพื่อคลี่คลายความหวั่นวิตกในตลาดและเพื่อลดความตึงตัวในระบบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามาเลเซียมีความจำเป็นต้องดำเนินการในลักษณะเดียวกันนั้นหรือไม่ นางเซติกล่าวว่า "ธนาคารกลางมาเลเซียกำลังติดตามดูสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในระบบการเงินของมาเลเซียยังอยู่ในระดับสูง และเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้ดูดซับสภาพคล่องออกมาระบบไปแล้ว"
ส่วนคำถามที่ว่าวิกฤตการณ์ตลาดซับไพรม์จะส่งผลให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาดของมาเลเซียด้วยหรือไม่นั้น นางเซติกล่าวว่า "ผลกระทบจากวิกฤตการณ์ดังกล่าวยังไม่พบในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากภูมิภาคเอเชียมีเสถียรภาพที่สูงมาก ซึ่งสามารถสกัดความไม่แน่นนอนและความผันผวนของระบบการเงินในประเทศตะวันตกได้"
"แม้เราคาดว่าความผันผวนจะมีมากขึ้น แต่เรามั่นใจว่าเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียยังอยู่ในสถานะที่แกร่งพอที่จะรับมือกับเรื่องนี้ได้ และระบบการเงินของมาเลเซียเริ่มมีการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น จึงทำให้รับมือกับวิกฤตการณ์เหล่านี้ได้เช่นกัน" นางเซติกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--