กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)คาดว่าในปีนี้ยังสามารถทำผลตอบแทนการลงทุนอย่างน้อย 6.5-7.0% สูงขึ้นจาก 3% ในปีก่อน แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัวในช่วงต้นปีและตลาดหุ้นมีความผันผวน เนื่องจากในปีนี้กบข.ได้จัดพอร์ตการลงทุนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
นายวิสิฐ ตันติสุนทร กรรมการผู้จัดการ กบข. กล่าวว่า กบข.กำลังพิจารณาปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศอีก 5-10% ภายในปีนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนลงทุนที่ 15% ซึ่งแบ่งเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ 10% และ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 5%
"การเข้าลงทุนในต่างประเทศ ผมไม่คิดรอค่าเงิน(บาท) ไม่คิดว่าเงินบาทจะกลับไปที่ 38-40 บาท/ดอลลาร์ แต่ระดับ 35-36 บาท ก็เป็นไปได้ ช่วงนี้พยายามจะเน้นตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นหลัก ก็จะเพิ่มลงทุนต่างประเทศอีก 5-10% "นายวิสิฐกล่าว
ส่วนการลงทุนในประเทศ ยังคงจะให้น้ำหนักความสำคัญเช่นเดิม โดย 58-60% ลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งมีอายุเฉลี่ยของพันธบตรที่ 4 ปี ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ที่สัดส่วน 12% โดยเน้นหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในกลุ่ม SET50
ขณะที่ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งลงทุนโดยตรงและลงทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ได้ลงทุนไปแล้ว 4% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 5-6% ภายในปีนี้ โดยได้มองหาโอกาสลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศด้วยเพราะให้ผลตอบแทนดีกว่าในประเทศ
ปัจจุบันพอร์ตลงทุนของกบข. มีมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท
นายวิสิฐ กล่าวว่า กบข.เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย (ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น) รวมทั้งลงทุนโดยตรง ซึ่งขณะนี้ กบข.ได้ลงทุนไปแล้วประมาณ 3-4 พันล้านบาท หรือประมาณ 1% ของพอร์ตลงทุน เนื่องจากเห็นว่า ตลาดเอเชียยังมีหุ้นพื้นฐานที่ดี ซึ่งให้ผลตอบแทนดี และ กบข.เองก็ต้องการให้มีการลงทุนหลากหลาย ทั้งนี้ กบข.มองตัวเองว่าเป็นระดับ Global Fund จึงพิจารณาการลงทุนในระดับภูมิภาคมากขึ้น
นอกจากนี้ ได้วางแผนการลงทุนในปีหน้าไว้ โดยเฉพาะการลงทุนตราสารหนี้ โดยคาดจะมีการปรับระยะเวลาการถือครองตราสารหนี้หรือพันธบัตร ตามอัตราดอกเบี้ย หรืออาจแบ่งไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรในประเทศ โดยปัจจุบันได้ผลตอบแทนที่ประมาณ 5% เทียบกับในประเทศให้ผลตอบแทนประมาณ 3.5-4%
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--