มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนประจำเดือนก.ค. อาจเพิ่มขึ้นสูงถึง 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ตัวเลขดังกล่าวคงจะไม่สร้างความวิตกกังวลมากนัก เนื่องจากวงจรการเกิดภาวะเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะสามารถควบคุมได้
ดัชนีเงินเฟ้อที่เกิดจาก CPI ของจีนขยายตัว 4.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมิ.ย. นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2547
นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่า จะมีการใช้มาตรการควบคุมทางการเงินอย่างเช่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าจะมีภาวะเกินดุลด้านแรงงานและความสามารถในการผลิตที่มีมากขึ้นจะช่วยควบคุมความกดดันจากภาวะเงินเฟ้อได้อย่างน้อยอีกหลายปีข้างหน้าก็ตาม
"ดูเหมือนว่าความวิตกกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะมีมากขึ้น เราเชื่อว่าการเกิดภาวะเงินเฟ้อในครั้งนี้เกิดขึ้นตามวงจรปกติมากกว่าที่จะเป็นภาวะเงินเฟ้อระยะยาว" มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าว
ทั้งนี้ จีนมีกำหนดเปิดเผยตัวเลข CPI ประจำเดือนก.ค. ในวันจันทร์หน้า
"เมื่อเกิดวงจรภาวะเงินเฟ้อตามธรรมชาติ เราจึงคาดว่าจะมีการใช้มาตรการควบคุมการเงินในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐในการจัดการกับการคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อ" มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าว
"อย่างไรก็ตาม เราไม่เชื่อว่ามาตรการควบคุมการเงินจะเข้มข้นเหมือนในปี 2547 และสภาวะในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2549 ก็แสดงให้เห็นว่าเรากำลังอยู่ในช่วงของวงจรทางการเมืองและปราศจากภาวะติดขัดทางเศรษฐกิจ" สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--