เลห์แมน บราเธอร์ส ปรับคาดการณ์การขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ เป็น 10.8% จาก 9.8% หลังเศรษฐกิจในประเทศขยายตัว 11.9% ในไตรมาสที่ 2 ของปี เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากยอดการส่งออกสุทธิ การบริโภค และการลงทุน ซึ่งส่งสัญญาณทั้งทางบวกและทางลบออกมา
ในด้านดี ยอดการค้าปลีกขยายตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นแบบตัวเลขสองหลักในครึ่งแรกของปีนี้และเหตุที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น ในขณะที่การขยายตัวของการลงทุนสินทรัพย์คงที่ในเมืองชะลอตัวลงเหลือ 26.6% เมื่อเทียบกับ 30.5% เมื่อปีที่แล้ว โดยมีการลงทุนในภาคตะวันตกมากกว่าทางฝั่งตะวันออก
ส่วนด้านลบคือ ยอดเกินดุลการค้าที่เพิ่มขึ้น 85% ในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งไม่สมดุลกับการส่งออก และส่งผลให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 2.66 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์
ซุน หมิงฉวน นักวิเคราะห์จากเลห์แมน บราเธอร์ส กล่าวว่า ดัชนีเงินเฟ้อราคาผู้บริโภค (CPI) ก็ขยายตัวเช่นกัน โดยเฉพาะจากราคาอาหารซึ่งหนุนให้ดัชนีเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเป็น 5.6% ในเดือนก.ค.
ตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ดัชนีเงินเฟ้อราคาผู้บริโภครายปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.0% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากรายปีของธนาคารที่ 3.33% และมากกว่าดัชนีเงินเฟ้อของธนาคารกลางซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 3.0% ดังนั้นธนาคารกลางจึงอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกราว 2.7% ในปีนี้
ในขณะเดียวกัน ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า GDP ของจีนจะขยายตัว 10.5% และ 9.5% ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ ส่วนในปีหน้า ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 9.8% เมื่อเทียบกับปีนี้ สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--