นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนต.ค.63 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) มีผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 867 ราย ใน 73 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (514 ราย) รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง (136 ราย) ภาคเหนือ (113 ราย) ภาคตะวันออก (61 ราย) และภาคใต้ (43 ราย)
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนธ.ค.59 ที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จนถึงสิ้นเดือนก.ย.63 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 347,668 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 8,649.09 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 24,877.44 บาทต่อบัญชี ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
(1) สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนต.ค.63 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิทั้งสิ้น 870 ราย ใน 75 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 782 ราย ใน 73 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา) โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (67 ราย) กรุงเทพมหานคร (59 ราย) และขอนแก่น (45 ราย)
(2) สินเชื่อประเภทพิโกพลัส ณ สิ้นเดือนต.ค.63 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสสะสมสุทธิทั้งสิ้น 111 ราย ใน 39 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 85 ราย ใน 29 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (14 ราย) อุดรธานี (8 ราย) และอุบลราชธานี (7 ราย)
(3) ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนก.ย.63 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 157,350 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 3,607.23 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1-3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 21,645 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 534.31 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.81% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 24,862 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 570.76 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.82% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม ซึ่งมีแนวโน้มลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับยอด NPL ของเดือนส.ค.63 (16.39%)