ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (7-11 ธ.ค.) ที่ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยประเมินปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการดูแลเงินบาทระยะที่ 2 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ ปัจจัยทางการเมืองและสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) สำหรับเดือนธ.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และการประชุม EU Summit และข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ย. ด้วยเช่นกัน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค แต่สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย โดยเงินดอลลาร์ฯเผชิญแรงขายท่ามกลางความหวังต่อการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ประกอบกับมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินต่อเนื่องที่สะท้อนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ การจ้างงานภาคเอกชนและดัชนี ISM ภาคบริการเดือนพ.ย. ที่ออกมาดีน้อยกว่าที่ตลาดคาดก็เป็นปัจจัยกดดันเงินดอลลาร์ฯ ด้วยเช่นกัน ในวันศุกร์ (4 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.15 เทียบกับระดับ 30.29 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 พ.ย.)