นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงการติดตามราคา Spot LNG ในสัปดาห์ 15-20 พฤศจิกายน 2563 ว่า ราคา Spot LNG เฉลี่ยในสัปดาห์นี้ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.325 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 6.505เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู จากสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่าปกติในช่วงต้นฤดูหนาวของประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ส่งผลให้ผู้ซื้อไม่มีความต้องการจัดหา Spot LNG เพิ่มเติม และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีความรุนแรงขึ้น ผู้ซื้อต่างชะลอการซื้อจากความกังวลการเพิ่มมาตรการยับยั้งการระบาดจากภาครัฐฯ รวมทั้งตลาดมีอุปทานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากโครงการผลิตในประเทศแองโกล่า สหรัฐฯ และอินโดนีเซีย ทั้งนี้ โครงการ Freeport LNG ประเทศสหรัฐฯ ได้กลับมาดำเนินการผลิตและส่งออก LNG อีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องชั่วคราวในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) ในเดือนตุลาคม 2563 ราคาก๊าซธรรมชาติ (Pool) อยู่ที่ 178.6384 บาท/ล้านบีทียู ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 16.4142 บาท/ล้านบีทียู จากราคาตามสัญญาก๊าซฯ ในอ่าวไทยและประเทศเมียนมาปรับตัวลดลงสะท้อนราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ส่วนราคา Spot LNG เฉลี่ย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.4748 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 6.2011 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู จากความต้องการ LNG สำหรับฤดูหนาว
ปัจจุบันราคาขายปลีกก๊าซ NGV (สถานีภายในรัศมี 50 กม. จากสถานีแม่) ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ? 15 ธันวาคม 2563 ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ปริมาณการจำหน่ายก๊าซ NGV อยู่ที่ 3,784 ตันต่อวัน (หรือประมาณ 160.95 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน) และมีสถานีบริการ NGV สะสมจำนวน 511 สถานี ทั้งนี้ มีสถานีบริการที่ยังเปิดให้บริการทั้งหมด 424 สถานี แบ่งเป็น สถานีแม่ 19 สถานี สถานีลูกและสถานีแนวท่อ 405 สถานี