ภาวะตลาดเงินบาท: ระหว่างวันแข็งค่าหลุด 30 ก่อนดีดกลับมาปิดที่ 30.08 รอดูปัจจัยช่วงหยุดยาว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 9, 2020 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.08 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 30.03 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 29.98-30.08 บาท/ดอลลาร์ คาดทางการ เข้ามาดูแลเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากเกินไป

"ระหว่างวันเงินบาทหลุด (30 บาท/ดอลลาร์) ลงไปแตะ 29.98 (บาท/ดอลลาร์) ก่อนที่จะมีแรงซื้อดอลลาร์อย่างหนาแน่น เข้ามาจนปิดที่ระดับอ่อนค่าสุดของวัน" นักบริหารเงิน กล่าว

ช่วงวันหยุดยาวมีความเคลื่อนไหวในต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีการพิจารณา เรื่องปริมาณ QE ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีปริมาณมากกว่าที่กำหนดไว้ที่ 5 แสนล้านยูโรหรือไม่ และความคืบหน้าการเจรจาเรื่อง Brexit ส่วน ในประเทศเป็นเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองเกี่ยวกับการชุมนุม

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าไว้ระหว่าง 30.00-30.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.07 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 104.12 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2125 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.2111 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,482.67 จุด เพิ่มขึ้น 3.75 จุด, +0.25% มูลค่าการซื้อขาย 123,396.73 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,653.30 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ผู้บริหารสูงสุด Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี
63 จะหดตัวน้อยกว่าคาดที่ -6.5% จากการฟื้นตัวของการบริโภคเอกชนในช่วงไตรมาส 3/63 ขณะที่ปี 64 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว
3.8% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก มาตรการภาครัฐ และวัคซีน แต่ผลดีของวัคซีนต่อการท่องเที่ยวจะมาช่วงครึ่งหลังของปีเป็นหลัก
ขณะที่แผลเป็นทางเศรษฐกิจในตลาดแรงงาน ธุรกิจ SME และหนี้ครัวเรือนจะเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจที่สำคัญ
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2564 ทิศทางยอดขายมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง เมื่อภาวะ
เศรษฐกิจในประเทศเริ่มทยอยฟื้นตัวดีขึ้น จากที่เริ่มส่งสัญญาณการกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้นในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ โดยทั้งปี 2563 มี
โอกาสแตะระดับ 770,000 คัน หรือหดตัว 23.6% จากปี 2562
  • นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง (Ayeyawady ?
Chao Phraya ? Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS ) ครั้งที่ 9 ผ่านระบบการประชุมทางไกลกับผู้นำ
ประเทศสมาชิกอีก 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา เวียดนาม ผลักดันความร่วมมือการพัฒนาความเชื่อมโยงในทุกมิติ และ
การจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนา ACMECS
  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 335 ต่อ 78 เสียง ผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National
Defense Authorization Act หรือ NDAA) มูลค่า 7.40 แสนล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะส่งต่อให้วุฒิสภาลงมติเป็นลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่า
ร่างกฎหมายจะผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภา และหลังจากนั้น ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อพิจารณา
ว่า เขาจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย หรือใช้สิทธิ์วีโต้
  • ทำเนียบขาวเสนอร่างมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ฉบับใหม่ วงเงิน 9.16 แสนล้านดอลลาร์ ต่อสภา
คองเกรสแล้ว ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อน
  • ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ประจำเดือนธ.ค. โดยนักวิเคราะห์คาด
การณ์ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์จะหดตัว 6% ในปีนี้ แม้ภาคการผลิตเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภาคการก่อสร้างและการบริโภคเอกชนยัง
คงปรับตัวลดลงอย่างหนัก
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัว
ลง 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 11 ปี เนื่องจากราคาอาหารชะลอตัวลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ