นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากข่าวความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนและทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงเดือน พ.ย.63 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงอย่างรวดเร็วประมาณ 3.5% ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ทำให้สกุลเงินภูมิภาคหลายประเทศปรับแข็งค่าขึ้นมาก อาทิ เงินหยวนแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง เงินวอนเกาหลีใต้และเงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าสุดในรอบ 3 ปี เงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าสุดในรอบ 23 ปี
เช่นเดียวกับเงินบาทก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นเดียวกัน โดยตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้น 3.5% เทียบกับเงินวอนเกาหลีใต้ที่แข็งค่าขึ้น 4.5% และเงินรูเปียห์อินโดนีเซียแข็งค่าขึ้น 3.9% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับต้นปี เงินบาทยังอ่อนค่าอยู่เล็กน้อย
ทั้งนี้ ธปท. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและได้เข้าดูแลเพื่อชะลอความผันผวนที่จะกระทบต่อการปรับตัวของภาคเศรษฐกิจจริง รวมถึงจะติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด