ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนเทียบยูโร-ปอนด์ หลังเฟดลดดอกเบี้ยมาตรฐาน

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เงินปอนด์ ฟรังซ์สวิส และดอลลาร์แคนาดา เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือเป็นปัจจัยลบต่อสกุลเงิน เพราะจะทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินนั้นๆมีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.3481 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3475 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.9879 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9798 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะดับ 1.2063 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.2071 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0572 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0637 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 114.86 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 114.00 เยนต่อดอลลาร์
          เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เฟดได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดครั้งใหญ่ด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.50% สู่ระดับ 5.75% เพื่อบรรเทาภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์กู้โดยตรงจากเฟด อย่างไรก็ตาม เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้เท่าเดิมที่ 5.25%
          การที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจนถึงขณะนี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังไม่ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 138.1 จุด หลังจากลดลง 0.3% แตะระดับ 137.5 จุดในเดือนมิ.ย.
          นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ จนกว่าตลาดจะมีเสถียรภาพมากขึ้น