นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย.63 มียอดส่งออกรถยนต์ที่ 74,532 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 0.87% โดยส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนีย ซึ่งทั้ง 2 ตลาดมีส่วนแบ่ง 60% ของยอดส่งออกรถยนต์ทั้งหมด ส่วนตลาดอื่นๆ ส่งออกลดลง
ขณะที่มูลค่าการส่งออกรถยนต์ อยู่ที่ 42,674.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.40% จากเดือน พ.ย.62 เป็นเดือนแรกในรอบ 17 เดือนที่มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปช่วง 11 เดือนปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.63) อยู่ที่ 667,361 คัน ลดลง 32.03% จากระยะเวลาเดียวกันของปี 62 ส่วนมูลค่าการส่งออก อยู่ที่ 371,694.94 ล้านบาท ลดลง 26.89%
ด้านการผลิตในเดือน พ.ย.63 จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้มีทั้งสิ้น 172,455 คัน เพิ่มขึ้น 11.92% จากเดือน พ.ย.62 และเพิ่มขึ้น 15.46% จากเดือน ต.ค.63 เป็นเดือนแรกที่เพิ่มขึ้นในรอบ 19 เดือนจากสงครามการค้าเมื่อปีที่แล้วและการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากประเทศคู่ค้าเริ่มคลายการล็อคดาวน์และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยผลิตเพิ่มขึ้นทั้งผลิตเพื่อส่งออกที่เพิ่มขึ้น 4.25% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 18.64%
สำหรับจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนม.ค.-พ.ย.63 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,283,963 คัน ลดลง 31.69% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ เดือนพ.ย. 63 มีจำนวนทั้งสิ้น 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 6.83% จากเดือนต.ค.63 เป็นเดือนแรกที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 โดยรถกระบะเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นจากการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด- 19 จากรัฐบาลรวมถึงการประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการออกรถยนต์รุ่นใหม่รวมทั้งการลดแลกแจกแถมของผู้จำหน่ายรถยนต์