นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "ขับเคลื่อนประเทศไทย" ในงาน "RESTART THAILAND 2021" ว่า นับตั้งแต่เดือน เม.ย.63 เป็นต้นมาดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ แม้จะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมบ้างก็ตาม และการออกมาตรการต่างๆ เช่น โครงการช้อปดีมีคืน โครงการคนละครึ่ง ได้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวดีขึ้น วัดผลจากดัชนีการเข้าพักโรงแรมที่ปรับตัวดีขึ้น จาก 3% ในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 30%ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในปีหน้ารัฐบาลจะมีปฏิบัติการเชิงรุก โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เดินหน้าพูดคุยกับหอการค้าต่างประเทศ และสถานทูต 5 ประเทศ ที่ได้เสนอแผนปฏิบัติ 10 ข้อ เพื่อให้รัฐบาลปรับการทำงาน ปฏิรูปศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งไทยเองต้องการยกระดับดัชนีการอำนวยความสะดวกให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศทั้งหมด
"ปีหน้าจะเป็นปีที่ดึงดูด ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สร้างอุตสาหกรรมใหม่เพื่อเปลี่ยนประเทศ มีการวางกฏกติกา ระเบียบต่างๆให้มีความโปร่งใสและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น และกทม. มีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค ซึ่งบีโอไอจะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง"นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
พร้อมทั้งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่ยานยานต์ไฟฟ้า ที่สำคัญภาคเอกชนต้องมีความเชื่อมั่นและเชิญชวนนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในปี 65 โดยในส่วนของเขตในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีการลงนามในสัญญาที่ชัดเจนและเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้แล้วเสร็จภายใน 3-4 ปีจากนี้ รวมถีงการพัฒนาด้านดิจิทัลและ 5G ที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย
นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการสร้างโอกาสให้กับคนตัวเล็ก ซึ่งรัฐบาลจะแจกเงินเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องสร้างโอกาส สร้างอาชีพ
นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวย้ำว่า จะปล่อยให้ประเทศเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเกิดการล็อกดาวน์อีกครั้งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งปี 64 ต้องรักษาตรงนี้ไว้
"ปี 65 เราจะกลับมา เราจะแข็งแรง และมั่นคงมากขึ้น เป็นปีที่ลุกขึ้นมา ลุกไว แล้ววิ่งเลย แต่ปี 64 เราต้องประคับประคองกัน เป็นปีที่เราต้องอดทน ร่วมไม้ร่วมมือกัน และเป็นหน้าที่ของทุกๆคน...ขอเวลาอีก 1 ปีไม่เกินนี้" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว